ดีเอสไอ 2 ม.ค. – หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา 18 ราย และ 1 นิติบุคคลคดีดิไอคอน กรุ๊ป ใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า อัยการได้ตรวจสอบรายละเอียดของสำนวนแล้วและขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สรุปประเด็นรายละเอียดทั่วไป เพราะเอกสารมีจำนวนมาก โดยดีเอสไอได้เตรียมเดินหน้าขยายผลคดีดิไอคอนต่อ อยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งมีข้อมูลคำให้การจากพยานกว่า 7,000 ราย เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยง ประกอบกับข้อมูลหลังบ้านของบริษัทฯ ที่ดีเอสไอได้ลงไปตรวจค้นและตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุมา เพื่อให้เห็นโครงสร้างของการจ่ายผลตอบแทน การรับผลตอบแทน การลงทุนเปิดบิล การชักชวนคนอื่นมาเป็นแม่ทีม เพื่อค้นหาบุคคลที่มีบทบาทเป็นตัวกลาง หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับดิไอคอนฯ นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย เพื่อพิจารณาตามองค์ประกอบว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอต่อการดำเนินการหรือไม่ รวมถึงจะต้องมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหรือไม่ กรณีแม่ทีมแม่ข่ายของดิไอคอนฯ ต้องดูหลักฐานทั้งหมด
ส่วนประเด็นความผิดนอกราชอาณาจักรที่มีตัวแทนของบริษัทดิไอคอนฯ บางส่วนซึ่งอยู่แถบเอเชีย เบื้องต้นจำนวน 8 ราย ได้ทำธุรกรรมจ่ายโอนเงินมาเปิดบิลในไทยนั้น รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าคดีแชร์ดิไอคอนฯ ภาค 2 อาจจะเป็นคดีรวมพิจารณากับคดีความผิดนอกราชอาณาจักรของอัยการ เพราะเป็นข้อเท็จจริงเรื่องเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนซึ่งจะนัดหมายประชุมระหว่างดีเอสไอและอัยการ ช่วงกลางเดือน ม.ค.นี้ ทั้งนี้ คดีนอกราชอาณาจักรเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด หรือผู้ที่อัยการสูงสุดมอบหมาย ซึ่งอัยการสูงสุดก็อาจมอบหมายมาที่อธิบดีดีเอสไอให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และอาจจะมีการมอบหมายให้พนักงานอัยการมาร่วมสอบสวน
พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า ดีเอสไอยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการมีบทบาทเป็นแม่ทีมของดิไอคอนฯ ต้องดูเรื่องเจตนาพิเศษว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งนอกจากบอส 18 ราย แล้วจะมีผู้อื่นที่กระทำความผิดอีกหรือไม่ อยู่ระหว่างขยายผล และดีเอสไอจะต้องเรียกสอบปากคำพยานในเรื่องที่จำเป็นต้องพิสูจน์.-119-สำนักข่าวไทย