26 ก.ย. – กรมชลประทานเตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เตรียมรับมือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำจาก 1,500 เป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 25 กันยายน ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังระดับน้ำสูงขึ้น และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำในพื้นที่ทางตอนบนที่ไหลลงลุ่มเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกรมชลประทานคาดการณ์ว่า 1-7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ ประมาณ 2,000-2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับปริมาณน้ำ Sideflow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยกตัวสูงขึ้นมีปริมาณ 2,350 ลูกบาศก์เมตรวินาที จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีก 1 เมตร ถึง 1.50 เมตร และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน
แม่น้ำน้อยเพิ่มสูงต่อเนื่องระลอกสอง
ขณะที่ จ.อ่างทอง คนงานก่อสร้างเขื่อนเรียงหินริมแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ เร่งเก็บงานเสาเข็มเขื่อนเรียงหินแข่งกับระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ก่อนที่จะต้องหยุดการทำงานชั่วคราวหากระดับน้ำเพิ่มสูงจนไม่สามารถทำงานได้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือนนี้ และส่งผลกระทบให้ท่วมพื้นที่ก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมอ่างทอง ทำให้อาจจะต้องหยุดปฏิบัติงานชั่วคราวจนกว่าระดับน้ำที่ท่วมพื้นที่ด้านล่างของงานก่อสร้างจะลดระดับลง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้กับเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างเขื่อน ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ต้องติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.อ่างทอง ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 1 เมตร ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการพร่องน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อรองรับน้ำเหนือ ล่าสุดข้อมูลจากศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคกลาง รายงานระดับน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท อยู่ที่ 1498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่สถานีชลมาตร C7A สำนักชลประทานที่ 12 หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำอยู่ที่ 5.99 เมตร/รทก. เพิ่มขึ้น 0.82 เมตร
ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย ที่ ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ อยู่ที่ 3.97 เมตร จากระดับตันกั้นน้ำ 5 เมตร เพิ่มขึ้น 0.30 เมตร ซึ่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ประกาศแจ้งเตือนในวันที่ 28 ก.ย. 2567 เขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มปริมาณการระบายน้ำในอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงขึ้น 1.00-1.50 เมตร ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย