กรุงเทพฯ 4 ก.ย.- พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยอมรับเป็น พล.ต.อ.ที่เข้าไปขอตรวจสอบสำนวนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญตามคำสั่ง ผบ.ตร. หลังศาลยกฟ้องผู้องหา พร้อมปฏิเสธข่าว พลตำรวจตรี มากบารมีเป็นคนสั่งไม่ให้ปล่อยสำนวน หากมีพลตำรวจตรีใหญ่กว่าพลตำรวจเอกจริง คงอยู่กันไม่ได้
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน ได้รับคำสั่งจากพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอาศัยตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 871/2559 ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานสืบสวนคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง รวมถึงความผิดอาญา ตามประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีอำนาจเต็มในการขอเข้าไปตรวจสำนวนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท ว่ามีข้อบกพร่องในส่วนใด จึงเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งยกฟ้องผู้ต้องหาคดีนี้ แต่ยังไม่เห็นสำนวนคดีทั้งหมด เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก และพนักงานสอบสวน ยังรวบรวมเอกสารให้ไม่แล้วเสร็จ โดยปฏิเสธว่า ที่ไม่ได้ดูสำนวนไม่เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพญาไท เพราะเป็นอำนาจของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้รายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบแล้ว
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า หากจำเลยในคดีนี้ ต้องการจะฟ้องกลับ หลังศาลยกฟ้อง ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับอัยการในการอุทธรณ์คดี
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำนวนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญนี้ ไม่รัดกุมแน่นหนาจริง และมีการปล่อยสำนวนบางส่วนให้ฝ่ายจำเลย ใช้เป็นข้อต่อสู้คดี
นอกจากนี้ ปฏิเสธกระแสข่าว นายตำรวจ ยศพลตำรวจตรี เป็นผู้มากบารมีในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นคนสั่งไม่ให้ตนเข้าไปตรวจสอบสำนวนคดี และจะไม่เชิญตัวพลตำรวจตรีคนดังกล่าวมาพูดคุยแต่อย่างใด หากจะมีการพูดคุยหลังจากนี้ ก็จะเป็นการหารือกับพนักงานอัยการ ในการอุทธรณ์คดีภายในกรอบเวลา 30 วัน เพราะส่วนตัวยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก
พลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า “ไม่มีพลตรีมีบารมีมากกว่าผม ถ้าจะมีบารมีมากกว่าผม ก็อยู่กันไม่ได้ ไม่พลตรีก็พลเอกต้องไป” และ “คนอย่างผมไม่ยอมถอย ถ้าประเทศชาติเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นพันตำรวจตรี พลตำรวจตรี หรือใครก็ตาม”.-สำนักข่าวไทย