TNA News-Now-next: ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 เกมนี้มีพลิก

วอชิงตัน 23 ก.ค.- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024 รูดม่านเปิดเวทีเมื่อต้นปี แบบที่ผู้สนใจการเมืองสหรัฐติดตามอย่างไม่มีลุ้นเท่าใดนัก เพราะตัวเต็งคู่แข่ง คือ คู่ปรับหน้าเดิม ระหว่างโจ ไบเดน ค่ายสีน้ำเงินจากพรรคเดโมแครต กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ค่ายสีแดงจากพรรครีพับลิกัน แต่หลังจากผ่านพ้นไปครึ่งปี ใครจะคิดว่า เกมพลิก เกิดปัจจัยไม่คาดคิด เขย่าการแข่งขันให้สั่นไหวเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกติดต่อกันหลายระลอก


ศึกนัดล้างตาของ 2 ผู้เฒ่า

ศึกครั้งนี้จะเป็นศึกนัดล้างตาของไบเดน วัย 81 ปี กับทรัมป์ วัย 78 ปี หลังจากที่ทรัมป์พ่ายแพ้ให้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 โดยที่เจ้าตัวยังคงไม่ยอมรับชัยชนะของไบเดน และยืนยันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ตนเองถูกโกงคะแนน ปีนี้ทั้งคู่เดินหน้าเก็บชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อเป็นตัวแทนพรรคตามรัฐต่าง ๆ ที่ทั้ง 2 พรรคเริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม และเสร็จสิ้นลงในต้นเดือนมิถุนายน เป็นที่คาดหมายว่า ต่างฝ่ายต่างจะได้เป็นตัวแทนพรรคสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้


ไบเดนและทรัมป์หยิบยกจุดอ่อนของอีกฝ่ายมาโจมตีกันตลอดการหาเสียง ไบเดนสูงวัยกว่าทรัมป์ แต่ดูมีภาษีดีกว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ดี ดัชนีตลาดหุ้นทำนิวไฮครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ทรัมป์มีคดีอาญาติดตัวมากถึง 4 คดี และคดีแพ่งอีกเป็นกะตั๊ก หลายฝ่ายเชื่อว่า การตัดสินคดีทั้งหมดน่าจะไม่แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง และผลคดีไม่น่าจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของกลุ่มคนรักทรัมป์ได้

วันที่ 30 พฤษภาคม  ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญาข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจทั้งหมด 34 กระทง กรณีให้ทนายจ่ายเงินปิดปากสตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงหนังผู้ใหญ่ ไม่ให้เปิดโปงช่วงก่อนเลือกตั้งปี 2016 ว่า มีสัมพันธ์สวาทกับเขา จากนั้นทรัมป์เมื่อได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้ทยอยคืนเงินในรูปของค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย จึงถือว่ากระทำความผิดในขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และผลของการกระทำเป็นการให้คุณให้โทษในการเลือกตั้งโดยอัยการตั้งสำนวนว่า ทรัมป์บิดเบือนจนมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

 คำตัดสินในคดีแรกนี้ทำให้ทรัมป์เป็นฝ่ายเสียรังวัดให้แก่ไบเดน ก่อนที่ทั้งคู่จะโคจรมาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกในการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ที่จัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เมื่อค่ำวันที่ 27 มิถุนายน


เกมพลิกครั้งแรก

เกมพลิกครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อไบเดนแสดงความชราภาพออกมาอย่างชัดเจน ท่าทางตะกุกตะกัก อาการหลงลืม และน้ำเสียงแหบพร่า ผลโพลล์ของซีเอ็นเอ็นหลังจบดีเบตให้ทรัมป์ชนะไบเดน 67 ต่อ 33 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าเนื้อหาของทรัมป์จะถูกตรวจสอบในภายหลังว่า ไม่จริงหลายประเด็น

ไบเดนตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ถูกกดดันจากคนในพรรคเดโมแครตให้พิจารณาถอนตัว เพื่อเปิดทางให้คนอื่นในพรรคขึ้นมาสู้กับทรัมป์แทน กระแสกดดันหนักขึ้นเมื่อเขาปล่อยไก่บนเวทีสุดยอดนาโตที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ ขณะจะส่งเวทีต่อให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน แต่กลับพูดว่าประธานาธิบดีปูติน ซึ่งเป็นผู้นำรัสเซียที่ยกทัพไปบุกยูเครน ไบเดนแก้เกี้ยวว่า มุ่งมั่นที่จะปราบปูตินมากเกินไป เลยทำให้พูดผิด แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ไบเดนก็ทำผิดซ้ำอีกในระหว่างการแถลงข่าว ด้วยการเรียกชื่อรองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส เป็นรองประธานาธิบดีทรัมป์

ด้านทรัมป์เริ่มมีข่าวดีทางคดีความ เมื่อศาลฎีกามีคำชี้ขาดในวันที่ 1 กรกฎาคมว่า ทรัมป์ไม่สามารถถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากสิ่งที่กระทำภายใต้อำนาจรัฐธรรมนูญในขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คำวินิจฉัยของศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดเช่นนี้เท่ากับว่าเป็นการกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่ไม่ยอมรับคำอุทธรณ์ของทรัมป์ที่ยกสิทธิความคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในข้อหาอาญา กรณีพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่ตนพ่ายแพ้ให้แก่ไบเดน

เกมพลิกครั้งที่ 2

เกมพลิกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นพร้อมกับความตกใจของคนทั้งโลก เมื่อมีคนพยายามลอบสังหารทรัมป์ขณะกำลังอยู่บนเวทีหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม คนร้ายสาดกระสุนหลายนัด ทรัมป์รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด ลูกกระสุนบางลูกเฉี่ยวถูกใบหน้า และนัดหนึ่งถูกหูขวาของเขา มีผู้ร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 2 คน

คนร้ายถูกพลแม่นปืนยิงวิสามัญทันที สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ ผู้รับผิดชอบสืบสวนสอบสวน ยังดูมะงุมมะงาหรา จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้มูลเหตุจูงใจ ข้อมูลพื้นฐานไม่ชัดเจน แล้วยังตั้งธงว่า เข้าข่ายก่อการร้ายภายในประเทศ (Domestic Terrorism) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกฎหมายหลายคนติงว่า ไม่ตรงกับนิยามความผิดนัก สมควรจัดว่าเป็นการพยายามลอบสังหารมากกว่า ขณะที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีหรือซีเคร็ตเซอร์วิสที่มีหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญในสหรัฐ รับหน้าเสื่อไปเต็ม ๆ เพราะมีหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรง นาง คิมเบอรี ชีทตัน หน้าหน้าหน่วย ถูกเรียกตัวไปไต่สวนต่อหน้าคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ที่ล้วนประสานเสียงตั้งคำถามเรื่องการปฏิบัติงาน ทวงถามข้อมูล แต่ไม่ได้คำตอบหรือข้อมูลใหม่ใด ๆ เลยแม้จะผ่านเหตุการณ์มาเป็นสัปดาห์ จนทั้งสองพรรคร่วมเรียกร้อง “สมควรลาออก หรือ ต้องปลดออก” สถานเดียว

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทั้งทรัมป์และไบเดนหันมาพูดเรื่องเดียวกันเป็นครั้งแรก คือ การทำให้ประเทศรวมใจเป็นหนึ่ง ทั้งคู่ประณามการใช้ความรุนแรง ท่ามกลางสังคมอเมริกันที่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างสุดขั้ว

หลังจากนั้นเพียง 2 วัน ทรัมป์มีข่าวดีเรื่องคดีความอีกครั้ง เมื่อผู้พิพากษารัฐฟลอริดายกฟ้องทรัมป์ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเก็บเอกสารชั้นความลับในบ้านพักหลังจากพ้นตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า อัยการพิเศษที่ทำหน้าที่ฟ้องทรัมป์ในคดีนี้ได้รับการแต่งตั้งอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันได้เสนอชื่อทรัมป์เป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในการเปิดประชุมวันแรก เขาปรากฏตัวพร้อมกับผ้าปิดแผลที่หู ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของวีรบุรุษของพลพรรครีพับลิกัน

เกมพลิกครั้งที่ 3

ฟากไบเดนประสบภาวะพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ตรวจพบว่าติดโควิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ต้องไปกักตัวที่บ้านพักส่วนตัวในรัฐแดลาแวร์ และเป็นจุดเริ่มต้นของเกมพลิกครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เมื่อไบเดนประกาศยุติการหาเสียง ขอถอนตัวจากแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย และประกาศสนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริส วัย 59 ปี เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งกับทรัมป์

แหล่งข่าวเผยว่า สาเหตุที่ไบเดนตัดสินใจถอนตัวอย่างกะทันหัน เป็นเพราะได้วิเคราะห์ข้อมูลจากคนสนิทระหว่างกักตัวเมื่อวันเสาร์ว่า มีคะแนนตามหลังทรัมป์ในรัฐสมรภูมิหรือสวิงสเตทสำคัญหลายรัฐ จึงได้ประกาศการตัดสินใจผ่านการเผยแพร่จดหมายถึงชาวอเมริกันทั้งประเทศ แต่จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไปจนครบวาระ ปิดฉากความหวังที่อาจจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2

ลุ้นกันตัวโก่งเหมือนกันสำหรับชาวเดโมแครต เมื่อต้องเปลี่ยนตัวขุนพลกลางศึก หากไพร่พลไม่ยอมรับขุนพล คนใหม่ หรือ แม่ทัพนายกองอื่นๆ ที่หวังนำทัพแตกแถว จะยิ่งทำให้พรรคเดโมแครตชะตาดับ ร่วงกราวรูดกันยิ่งไปอีก … แต่แล้ว ไม่ถึง 24 ชั่วโมง จากความอลหม่านอกสั่นของคนเดโมแครต สัญญาณแห่งความหวังปรากฎชัดว่า คอมมาลา แฮร์ริส นี่แหละคือขุนพลหญิงของพรรค ตั้งแต่ไบเดนประกาศรับรอง แกนนำพรรค คู่แข่งภายในพรรค และ ผู้สนับสนุนพรรค ต่างเรียงแถวออกมาส่งเสียงสนับสนุน ยอดเงินบริจาคยังบ่งชี้ได้ดีถึงกระแสพลิกกลับ จากที่เคยหยุดนิ่งไปนานเงินบริจาคพุ่งพรวดวันเดียว 81 ล้านดอลลาร์ สูงทำสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

Final Thoughts: จับตาจะมีเกมพลิกอีกหรือไม่

ณ เวลานี้ แม้จะชัดเจน แต่ก็ยังแฝงความไม่ชัดเจนอยู่ เพราะแม้ว่านางแฮร์ริส จะมาแรง แต่ต้องรอว่า ตัวแทนพรรคเดโมแครตอย่างเป็นทางการที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับทรัมป์เป็นใคร ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือน ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน เพราะต้องรอพรรคเดโมแครตจะเสนอชื่อผู้สมัครที่เป็นตัวแทนพรรคในการประชุมใหญ่ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์วันที่ 19-22 สิงหาคม สมาชิกคนสำคัญของพรรค รวมทั้งประธานพรรคระดับรัฐทั้ง 50 รัฐได้ประกาศตัวสนับสนุนแฮร์ริสแล้ว ขณะที่เธอและทีมงานเริ่มเดินหน้าขอเสียงสนับสนุนภายในพรรค งานนี้พรรคเดโมแครตจะใช้กลยุทธ์ใดที่จะทำให้ตัวแทนพรรคสามารถสู้กับทรัมป์ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องเวลาที่กระชั้นชิด ส่วนฝ่ายทรัมป์ ก็ใช่ว่าจะได้เปรียบฝ่ายเดียว เขาก็ต้องปรับกลยุทธ์ จากที่เคยโจมตีไบเดนเรื่องชราภาพและความเฉื่อยชา ก็ไม่สามารถใช้อาวุธนี้ได้อีกกับแฮร์ริสที่สดกว่า อายุน้อยกว่า เกือบ 20 ปี ขณะที่เขาเองต่างหากที่ต้องกลายเป็นคู่ชิงทำเนียบขาวที่อายุสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ จากนี้ไปจะมีเกมพลิกจากปัจจัยที่ไม่คาดคิดขึ้นอีกหรือไม่ คงต้องจับตากันให้ดีสำหรับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024.-814(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”