หมอชิต 25 ต.ค. – กรมการขนส่งทางบกเผยการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะวันแรก ทั้ง 3 สถานี เป็นไปอย่างเรียบร้อยและได้รับความมือจากผู้ประกอบการอย่างดี ขณะที่ประชาชนบางส่วนยังสับสน ด้าน บขส.เตรียมปรับเวลาการเดินรถให้เป็นรูปแบบเดียวกัน
นายณันทพงษ์ เชิดชู รองอธิบดี ฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก กล่าวภายหลังการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะการเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพในวันแรก ว่า การเข้าใช้สถานีทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจตุจักร หรือหมอชิต 2 สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่-ปิ่นเกล้า และสถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตมีวินรถตู้ทั้งหมด 111 วิน จำนวน 2,500 คัน มีประชาชนที่มาใช้บริการในสถานีขนส่งจตุจักรประมาณ 30,000 คน สถานีขนส่งสายใต้ใหม่-ปิ่นเกล้าประมาณ 20,000 คน สถานีขนเอกมัยประมาณ 10,000 คน ด้านผู้ประกอบการให้ความร่วมมืออย่างดีและในอนาคตจะมีการจัดระเบียบเส้นทางที่ทับซ้อนกัน โดยใช้เวลาศึกษาเพื่อประเมินผลระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม การจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะวันแรกยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังสับสนกับพื้นที่จอดรถ ซึ่งจะต้องมีการทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์เรื่องจุดจำหน่ายตั๋วและชานชาลา รวมถึงจุดจอดรถ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ทับซ้อนจากจุดเดิม นอกจากนี้ จะต้องมีการเพิ่มจำนวนเก้าอี้สำหรับที่นั่งในการพักคอยของผู้โดยสาร ส่วนการจัดการจราจรโดยรอบจะมีเจ้าหน้าที่ให้ความสะดวกทั้งทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เป็นผู้ดูแลประชาชนที่จะมาใช้บริการ
ทั้งนี้ หากมีการจราจรหนาแน่นจะเปิดประตู 1 , ประตู 2 และประตูด้านข้าง เป็นทางออกฉุกเฉิน ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังสถานีขนส่ง ส่วนการดำเนินการกับวินและผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีบทลงโทษ สำหรับพนักงานขับรถ ปรับ 5,000 – 20,000 ผู้ประกอบการ 50,000 บาท ซึ่งขณะนี้พบว่าสถานีขนส่งสายใต้ยังมีผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามประมาณ 10 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ
นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ บขส. กล่าวว่า การดำเนินงานจัดระเบียบรถตู้ ตามนโยบาย คสช.ในการให้รถตู้ประจำทาง หมวด 2 วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร เข้าใช้พื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพทั้ง 3 แห่ง ตั้งแต่วันนี้ (25 ต.ค.) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ประกอบการให้ความร่วมมืออย่างดีในการนำรถตู้เข้าใช้สถานีขนส่งฯ ขณะที่ผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถตู้เป็นประจำ ก็เดินทางมาขึ้นรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารฯ จึงมั่นใจว่าการประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาได้ผล ประชาชนรับรู้ข่าวสาร อย่างไรก็ตาม บขส.จะทำการปรับปรุงป้ายประชาสัมพันธ์ภายในสถานีขนส่งฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ
ส่วนการจัดรถชัตเตอร์บัสอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่ง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถชัตเตอร์บัสวิ่งให้บริการรับ-ส่งเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ – หมอชิต 2 , รถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร – หมอชิต 2 , เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ – เอกมัย และเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ – ปิ่นเกล้า โดยจะเดินรถตั้งแต่เวลา 05.00 -10.00 น. และเวลา 16.00 -20.00 น. ซึ่งจากการเดินรถเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าผู้ใช้บริการมีความต้องการเดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารฯ สายใต้ (ปิ่นเกล้า) จำนวนมาก ขสมก.จึงได้จัดรถชัตเตอร์เส้นทางดังกล่าวเพิ่มขึ้น จากปกติอีก 5 คัน เพื่อให้บริการประชาชน
นายนพรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในระยะเวลา 6 เดือนหลังนี้ บขส.จะพิจารณาปรับเวลาการเดินรถ จำนวนเที่ยววิ่ง, เส้นทาง ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เช่น กำหนดให้มีผู้ประกอบการรายเดียวเดินรถ 1 เส้นทาง เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและ บขส.สามารถเข้าควบคุมดูแล เรื่องความปลอดภัยทั้งตัวรถโดยสารและพนักงานขับรถ ได้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา บขส.จัดรถรองรับผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดประมาณ 7,200 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเดินทางประมาณ 120,000 คน และเที่ยวกลับจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ .จัดรถประมาณ 7,400 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเดินทางประมาณ 130,000 คน รวมไป-กลับ ประมาณ 250,000 คน จำนวนผู้ใช้บริการต่ำกว่าประมาณที่ตั้งไว้ ทำให้การจัดรถรองรับเพียงพอ สรุปยอดผู้โดยสารที่ใช้บริการรถ บขส.-รถร่วม ระหว่างวันที่ 21 – 24 ตุลาคมที่ผ่านมา เดินทางไป -กลับ 1,010,000 คน อย่างไรก็ตาม บขส.ได้เตรียมการรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มเที่ยววิ่งจากเที่ยวปกติร้อยละ 25 รวมประมาณ 7,500 เที่ยว สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ประมาณกว่า 150,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดระเบียบรถตู้ประจำทาง หมวด 2 วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิวันแรกเป็นไปอย่างเรียบร้อย ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารประจำทางรถร่วม (บขส.) ย้ายไปให้บริการในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่งตามที่กำหนดไว้ เหลือเพียงเส้นทางที่วิ่งภายในกรุงเทพฯ เป็นหลัก โดยมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งนี้ ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่ทราบข้อมูลและไม่ทราบว่าเส้นทางที่ต้องการเดินทางจะต้องไปขึ้นรถที่สถานีใด สำหรับการเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปสถานีขนส่งผู้โดยสาร 3 แห่ง จะมีรถชัตเตอร์บัสไว้คอยบริการ ผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1490 ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่การจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์คล่องตัว.-สำนักข่าวไทย