fbpx

อัยการบินพิสูจน์น้ำมันเถื่อนบริเวณน่านน้ำเศรษฐกิจจำเพาะ

15 ก.ค. – อัยการพร้อมตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ บินพิสูจน์จุดจับเรือน้ำมันเถื่อน เร่งพิสูจน์หลักฐานดำเนินคดีพยายามนำน้ำมันเถื่อนขายในประเทศ


นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด พร้อม พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และพนักงานสอบสวนเดินทางขึ้นเครื่องบินที่กองบินตำรวจดอนเมือง เพื่อไปสำรวจจุดจับเรือน้ำมันเถื่อน 5 ลำ บริเวณน่านน้ำเศรษฐกิจจำเพาะหรือน่านน้ำสากล

นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางไปสำรวจจุดจับกุมในวันนี้เนื่องจากต้องการความชัดเจน ว่าตรงกับที่ระบุในสำนวนตำรวจหรือไม่ และสามารถจะเอาผิดในข้อหาตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และสรรพสามิต ฐานพยายามนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาในประเทศไทยได้หรือไม่ ป้องกันข้อต่อสู้ทางกฎหมายที่ทางฝั่งของผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องของจุดจับกุมที่อ้างว่าตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีได้ แต่ถ้าในกรณีจุดจับกุมอยู่ในน่านน้ำสากลจริง ทางกฎหมายก็สามารถที่จะหาหลักฐานในส่วนอื่น ๆ เช่น หลักฐานจากฝั่งไทยว่ามีความพยายามที่จะประสานงานหรือติดต่อขายน้ำมันเถื่อนในประเทศไทย ซึ่งยังเป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนของตำรวจและเจ้าหน้าที่อัยการต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไปว่าผู้ถูกกล่าวหามีความพยายามจะนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาขายในประเทศไทยหรือไม่


ส่วนพฤติกรรมที่พบว่าเรือ 1 ใน 5 ลำเป็นเรือที่มีสัญชาติไทยอยู่ด้วย และพบว่าเรือทั้ง 5 ลำ ได้ทำการชักธงไทยในน่านน้ำสากลสามารถเอาผิดได้ แต่เป็นเพียงข้อหาการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เดินเรือ ซึ่งไม่ใช่ข้อหาหลัก

ส่วนเสี่ย จ.จะอยู่เบื้องหลังของการค้าน้ำมันเถื่อนในครั้งนี้หรือไม่ ตามสำนวนการจับเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 5 ลำ ยังไม่พบรายชื่อนี้ปรากฏอยู่ แต่ในส่วนของที่มีการขโมยเรือของกลางพร้อมน้ำมันออกไปจากถ้าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ มีชื่อ เสี่ย จ. ปรากฏอยู่ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนในคดีเรือน้ำมันเถื่อนจะต้องนำสำนวนกรณีขโมยเรือของกลางกองบังคับการปราบปราม มารวมเป็นสำนวนเดียวกัน แล้วจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนว่า เสี่ย จ.อยู่เบื้องหลังการค้าน้ำมันเถื่อนในครั้งนี้หรือไม่ ถึงแม้อดีตที่ผ่านมาจะปรากฏว่าเรือที่จับกุมในครั้งนี้จะเคยถูกดำเนินคดีการค้าน้ำมันเถื่อนมาแล้วก็ตาม แต่ทางกฎหมายแล้วไม่สามารถเอาคดีเก่ามาเป็นหลักฐานในคดีปัจจุบันได้. -417-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด