ลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” ชุดทำคดี “เป้รักผู้การ” เข้าให้การกับอัยการ

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – 4 ลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” ชุดทำคดี “เป้รักผู้การ” เดิม เข้าให้การกับชุดทำคดีของอัยการ ก่อนสรุปสำนวน พ.ค.นี้ “อัยการวัชรินทร์” ยันคดีไม่ได้ล่าช้า เพราะต้องฟังความจริงทุกฝ่าย ยืนยันเรียก 4 ตำรวจมาให้การไม่เกี่ยวกับกรณีศาลออกหมายจับ “บิ๊กโจ๊ก” ด้านผู้การนำเกียรติ ยืนยันไม่ได้ชี้นำ “บอย” ให้การตามที่ถูกกล่าวอ้าง และไม่ได้หนักใจ


ความคืบหน้าในคดีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท หรือคดีเป้รักผู้การ นำโดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบ หรือกำกับการสอบสวน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้ร่วมสอบถามข้อมูลจากทีมสืบสวนสอบสวนคณะเดิมของการทำคดี ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 หลังจากสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 200 ปาก

ในวันนี้ชุดทำคดีเดิมได้เดินทางมาให้ข้อมูล 4 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ต.นำเกียรติ, พ.ต.อ.ภาคภูมิ, พ.ต.อ.เขมรินทร์ และ พ.ต.อ.ปรเมษฐ์ ซึ่งนายวัชรินทร์ บอกว่า เราเน้นรับฟังข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานจากทุกฝ่าย และผู้ต้องหาก็เปิดโอกาสมาให้การ ซึ่งได้ทำการสอบสวนครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการสรุปสำนวนส่ง เพราะอยากได้ฟังทุกฝ่าย วันนี้จึงได้เชิญชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนเดิมมาให้การ ซึ่งเป็นการเชิญมา ไม่ได้เป็นผู้ต้องหา


ส่วนเหตุผลที่ต้องเชิญตำรวจ 4 นายนี้มาให้การ เพราะบางท่านเคยให้การไปแล้ว บางท่านยังไม่เคยให้การ เพราะเราต้องการความจริงของเรื่อง ซึ่งยืนยันได้ว่า เราทำตามพยานหลักฐาน ไม่มีการช่วยเหลือใครและไม่มีการเข้าข้างใคร จึงต้องการความจริงบางอย่างในสำนวนที่อยากให้ท่านทั้ง 4 มาให้การ เพื่อเป็นประโยชน์ทางคดี หากคำให้การเกี่ยวข้องกับใครก็จะดำเนินคดีไปตามนั้น ดังนั้นการทำคดีสำนวนจะต้องฟังความจากทุกฝ่าย จะไม่มีทางที่เราจะเลี่ยงฟังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และทั้ง 4 นาย ก็ถือเป็นชุดสืบสวนสอบสวนที่ทำหน้าที่ตั้งแต่แรก บางท่านก็สืบสวนพยานหลักฐานต่าง ๆ รวมทั้งเส้นทางการเงิน บางท่านก็เป็นพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว หรือหากทั้ง 4 ท่านต้องการจะให้การอะไรเพิ่มเติมที่ไม่มีในสำนวนก็ยินดีรับ

โดยกรอบระยะเวลาจะดำเนินการสำนวนคดีให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. ซึ่งพยานรอบนี้เป็นพยานชุดสุดท้ายของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเป็นผู้เริ่มต้นคดีตั้งแต่แรก จึงเป็นการสอบคำให้การเพื่อนำมาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป ส่วนฝ่ายผู้ต้องหา และฝ่ายผู้เสียหายสอบปากคำหมดแล้ว ทั้งนี้ ได้เชิญชุดสืบสวนสอบสวนเดิมมาทั้งหมด 6 นาย แต่วันนี้มาแค่ 4 นาย ส่วนอีก 2 นาย นัดวันอังคารที่ 9 เม.ย. จากนั้นเมื่อสอบคำให้การเสร็จจะนัดประชุมใหญ่อีกครั้งช่วงหลังสงกรานต์นี้

นายวัชรินทร์ ยืนยันว่า คดีไม่ได้ล่าช้า เพราะผู้ต้องหาวันนี้เพิ่มเป็น 33 คนแล้ว และยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ 1 ราย ซึ่งถือว่าไม่ได้ล่าช้าเพราะเราไม่สามารถช่วยใครได้เลย ปิดหูปิดตาทุกอย่าง เปิดแต่ใจที่รับสำนวนจากพยานหลักฐานเท่านั้น ส่วนจะมีผู้ต้องหาเพิ่มอีกหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ ต้องรอดูคำให้การจากข้อมูลในวันนี้ และคดีคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว ใกล้จะสรุปสำนวนแล้ว ทั้งนี้ ยังยืนยันด้วยว่าทั้ง 4 นาย ไม่ได้สมัครใจมากล่าวหาใคร แต่เป็นการที่คณะทำงานเรียกทั้ง 4 ท่านเข้ามาให้ข้อมูลเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่ทั้ง 4 ท่านมีคดีอยู่แล้วและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เมื่อวานนี้ เพราะเป็นการเรียกทั้ง 4 นาย มาก่อนที่ศาลจะออกหมายจับ


ส่วนกรณีที่นายบอย เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนั้น นายวัชรินทร์ ระบุว่า เขาไปพูดกับสื่อมวลชน แต่ตอนให้การกับตนเองไม่เห็นพูด เพราะตนเองเป็นคนสอบนายบอยด้วยตนเอง ก็ไม่เห็นบอกอะไรทั้งที่บอกไปแล้วว่า อยากจะบอกอะไรให้บอกได้เลย และได้ส่งทีมอัยการกับพนักงานสอบสวนไปสอบถึงชลบุรีกับบางส่วนที่เขาอ้างพยานด้วย

ด้าน พล.ต.ต.นำเกียรติ บอกถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการถูกดำเนินคดีเว็บพนันของตนเอง เพราะตนเองเป็นคนทำดคี 140 ล้านบาท ว่า เป็นความเชื่อที่ตนเองเข้าใจ และได้นำเรียนประชาชนและสื่อมวลชนไปแล้ว จะไม่ขอไปกล่าวอ้างถึงวันนั้นอีก เพราะถือว่าวันนั้นตนเองได้ใช้สิทธิ์ก็จบตรงนั้น วันนี้เป็นการมาให้การตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอให้มาพบ ส่วนรายละเอียดก็อยู่ที่พนักงานสอบสวน ส่วนกรณีที่เคยออกมาแฉถึงผู้กำกับ ด. ที่มีความใกล้ชิดกับบิ๊กตำรวจจนทำให้ตนเองถูกเอาคืนนั้น พล.ต.ต.นำเกียรติ ระบุว่า เป็นรายละเอียดในคดีนี้ไม่ขอเปิดเผยและตนเองก็ไม่ได้รับผิดชอบในคดีนี้แล้ว และตนเองก็ไม่หนักใจ เพราะในอดีตที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา หน้าที่ของตนเองคือการแก้ปัญหา

ส่วนกรณีที่นายบอย กล่าวหาว่ามีการบังคับชี้นำแนวทางการในสอบสวนทางคดี พล.ต.ต.นำเกียรติ ระบุว่า รายละเอียดในสำนวนคดีนี้ก็ไม่ขอกล่าวถึง เป็นเรื่องขอ’คณะพนักงานสอบสวน และการที่เขากล่าวอ้างถึงก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน หากพิจารณาแล้วพวกตนเองมีการกระทำความผิดก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน แต่ยืนยันว่า ไม่ได้กระทำตามที่กล่าวอ้างแน่นอน

ขณะที่ พ.ต.อ.เขมรินทร์ บอกด้วยว่า ไม่มีการหนักใจเช่นกัน เพราะถือเป็นชุดสืบสวนสอบสวนชุดแรก และพร้อมให้ข้อมูลที่มีรายละเอียดอยู่ในสำนวนอยู่แล้ว แต่เป็นขั้นตอนที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]