กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – พฐ.ตรวจสอบบ้านต้นเพลิง เหตุไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุจากจุดธูปเทียนไหว้พระ ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันรอบชุมชนมีประปาหัวแดง-ถังดับเพลิงเพียงพอ แต่เพลิงลุกไหม้เร็วมาก จนควบคุมไม่ทัน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช โดยเฉพาะบริเวณบ้านที่เชื่อว่าเป็นต้นเพลิงว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว บ้านต้นเพลิงมีลักษณะเป็นบ้านเช่าสำหรับคนที่ทำงานแถวเยาวราชมาพักอาศัย จุดต้นเพลิงน่าจะเป็นชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่พบสิ่งของเผาไหม้แบบสมบูรณ์ หรือเผาไหม้มากกว่าสิ่งของที่อยู่บริเวณชั้น 1 และจุดอื่นๆ สอดคล้องกับคำให้การพยานบุคคลซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารที่คาดว่าเป็นต้นเพลิง ประกอบกับคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ได้ที่เห็นเปลวไฟเกิดขึ้นบริเวณชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบหิ้งพระและพระพุทธรูปอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งสามารถเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ได้จากการจุดธูปเทียนไหว้พระ จึงได้เก็บเป็นพยานหลักฐานไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร เพราะภายในห้องต้นเพลิงพบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟ รวมถึงแอร์เคลื่อนที่ ที่แม้จะไม่ได้เสียบปลั๊กไฟอยู่ขณะเกิดเหตุ และ ยังไม่พบการลัดวงจร แต่เจ้าหน้าที่จะเก็บรวบรวมอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียดในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจสอบวงจรภายในด้วย ส่วนจะเป็นการวางเพลิงหรือไม่นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบคราบน้ำมัน ไม่พบก๊าซ หรือสารเร่งปฏิกิริยาไวไฟ รวมทั้งไม่พบร่องรอยการระเบิด
ศูนย์พักพิงยังคงแน่น-เขตเปิดรับบริจาค
ส่วนที่วัดสัมพันธวงศ์ ศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับคนที่บ้านถูกไฟไหม้ ขณะนี้พบว่ายังมีผู้ได้รับผลกระทบอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ประมาณ 80 คน จากที่ลงทะเบียนไว้ 129 คน เพราะส่วนหนึ่งได้แยกย้ายกลับไปนอนที่บ้านพักของญาติ และจากการสำรวจผู้ที่พักพิงอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้จะมีทั้งคนไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชา
หนึ่งในผู้ประสบภัย เล่าว่า ตอนที่ได้ยินคนบอกว่าไฟไหม้ สิ่งที่คว้าออกมาได้มีเพียงผ้าขนหนูและกางเกงขายาว และหลังเกิดเหตุได้ไปดูบ้านพบว่าของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเสียหายหมด ทำให้ตอนนี้ต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงไปก่อน เพราะยังหาห้องพักไม่ได้ เนื่องจากห้องพักย่านเยาวราชเต็มทั้งหมด และมีราคาแพง
ขณะที่ นายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยล่าสุดผู้ประสบภัยมาลงทะเบียนแล้วกว่า 300 คน ส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 50 เป็นชาวต่างชาติที่มาเช่าห้องพักอาศัยอาศัยอยู่ และมีจำนวนหนึ่งที่เป็นคนไทยเจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่เอง ส่วนข้อมูลความเสียหาย พบว่ามีบ้านเสียหายทั้งหลัง 39 หลังคาเรือน เสียหายบางส่วน 10 หลังที่อยู่ในชุมชน และมีที่ไฟไหม้นอกชุมชนที่เป็นอาคารตึกแถว บางส่วนของโรงแรมอีกจำนวนหนึ่ง และคาดว่าวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) จะสามารถเปิดพื้นที่ให้ผู้ประสบภัยเข้าไปสำรวจทรัพย์สินของตัวเอง แต่ยืนยันว่าต้องให้พื้นที่ที่เกิดเหตุไฟดับสนิทเพื่อความปลอดภัยกับตัวประชาชนเองด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเปิดศูนย์ให้ผู้ประสบภัยมาลงทะเบียน จะให้ลงทะเบียนถึงวันพุธที่ 10 กรกฎาคมนี้ เพื่อสรุปจำนวนผู้เสียหายและส่งต่อให้หน่วยงานดำเนินการเยียวยาต่อไป เนื่องจากการสำรวจเมื่อวานนี้ มีผู้มาอยู่ในศูนย์ 131 คน วันนี้ออกไปอาศัยอยู่กับญาติและสามารถหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวที่อื่นได้แล้ว 60 กว่าคน ทำให้เหลือจุดที่เป็นศูนย์พักพิงที่วัดสัมพันธวงศ์เพียงจุดเดียว
ล่าสุดเขตสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก มีข้อความว่า เขตสัมพันธวงศ์ เปิดรับบริจาคสำหรับผู้ประสบภัยวันที่ 8 ก.ค. 67 เปิดรับเฉพาะเงินสด (ไม่รับเงินโอนทุกกรณี และไม่มีบัญชีสำหรับโอน โปรดระวังมิจฉาชีพแอบแฝง) เพราะขณะนี้สิ่งของ อาหาร น้ำดื่ม เพียงพอต่อความต้องการแล้ว
ผู้ว่าฯ กทม. ยันมีประปาหัวแดงรอบชุมชนเพียงพอ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบสาธารณภัย ว่าการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยเบื้องต้นจะแบ่งเป็นสองส่วน หากเป็นเจ้าของบ้าน อาคารจะได้รับค่าชดเชยความเสียหาย ส่วนผู้เช่าจะได้รับชดเชยค่าเช่าสองเดือนชดเชย
สิ่งที่ต้องเร่งทำตอนนี้คือการหาที่อยู่ใหม่ให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องเช่า รวมถึงเข้าไปประเมินความเสียหายที่เกิดเหตุทั้งในชุมชนตรอกโพธิ์ และในอาคารตึกแถว ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงจำนวนหัวแดงว่าเพียงพอหรือไม่ยืนยันว่าในเคสนี้ ชุมชนตรอกโพธิ์ มีเพียงพอ มี 3 จุด คือ จุดตรงชุมชนเลย และอีกจุดตรงซอยเยาวราช 7 และอีกจุดใกล้สี่แยก ยืนยันว่าหัวแดงตรงจุดนี้เพียงพอแน่นอน รถดับเพลิงใช้เวลามาถึงภายใน 6 นาที แต่เมื่อเสียบต่อท่อกำลังกำลังจะฉีดเข้าไป โครงสร้างบ้านก็พังถล่มลงมาก่อน แล้วทำให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุยากลำบาก
ขณะที่ภาพรวมกรุงเทพฯ มีหัวแดงอยู่ 25,000 จุด เมื่อครั้งมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ และเจอเหตุไฟไหม้ที่บ่อนไก่ ทำให้มีการวิเคราะห์ว่ายังมีประปาหัวแดงที่ต้องเพิ่มอีก 258 จุด ตอนนี้อยู่ระหว่างทำสัญญากับการไฟฟ้านครหลวง ขณะนี้กำลังเริ่มทำ 40 จุดแรกก่อน
ส่วนถังดับเพลิง ถังแดง ในชุมชนนี้มี 20 ถัง ที่จุดเกิดเหตุมีใช้ไปแล้ว 3 ถัง แต่คาดว่าเพลิงคงไหม้ลุกลามเร็วมาก ทำให้ถังแดงเอาไม่อยู่ ขณะเดียวกัน กทม. มีแผนเพิ่มถังแดงทั่ว กทม. อีก 37000 ถัง ใน 4 เดือน ที่จะลงเพิ่มในชุมชน และจะมีการประเมินชุมชนอีก 256 แห่งที่มีซอยเข้าออกยาก คับแคบ อาจจะต้องปรับอุปกรณ์ดับเพลิงให้สอดคล้องกับชุมชน ที่สำคัญคือกทม. มีโครงการฝึกการหนีไฟในชุมชน ปีนี้ทำการฝึกไปแล้ว 370 แห่ง ซึ่งชุมชนตรอกโพธิ์ เคยได้รับการฝึกด้วย เมื่อตอนต้นปี 67 ที่ผ่านมา อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมาก เพราะทราบเส้นทางหนี รวดเร็ว อนาคตอาจจำพัฒนาให้อุปกรณ์ดับเพลิงกระทัดรัดมากขึ้น และการประสานงานเรื่องการตัดไฟที่อาจจะต้องปรับปรุงคุยให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมั่นใจมากขึ้น
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าเหตุไฟไหม้นี้กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวหรือไม่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เหตุนี้อีกด้านหนึ่งสะท้อนว่ามีการเตรียมการดีมีการจัดการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ดี แล้ววันรุ่งขึ้นเยาวราชสามารถเปิดปกติ กรณีนี้เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดมีบางเรื่องที่เห็นข้อบกพร่อง แต่การเตรียมการตนคิดว่าก็ไม่แพ้ใครมีการรับมือเป็นระบบ ซึ่งน่าจะเป็นจุดหนึ่งที่สร้างความมั่นใจได้.-สำนักข่าวไทย