ทำเนียบรัฐบาล 7 พ.ค.- รมว.กต.แจง ชนกลุ่มน้อยเมียนมา ประสานคุย “ทักษิณ” ถือเป็นสิทธิ แก้วิกฤติภายใน ยืนยันรัฐบาลไม่เกี่ยว ย้ำยึดกรอบอาเซียน
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการทำหน้าที่ภายหลังเข้าปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต่อจากนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายมาให้ตนแล้ว และจะขอไปพูดคุยทางกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกันได้
ส่วนกรณีที่สื่อต่างประเทศรายงานนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดคุยกับตัวแทนชนกลุ่มน้อยของเมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติเมียนมานั้น นายมาริษ ชี้แจงว่า ตนเองก็เพิ่งได้รับทราบ ยังไม่ทราบแนวทางการเจรจาช่วยเหลือเมียนมาของนายทักษิณ และต้องยอมรับว่า นายทักษิณ เป็นบุคคลที่กว้างขวาง และเมียนมาเชื่อว่า นายทักษิณ น่าจะช่วยได้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แต่จุดยืนของรัฐบาล ต้องการให้เมียนมาสมานฉันท์ ปรองดอง เกิดสันติภาพในเมียนมา และไทยเอง ก็ได้ดำเนินการตามกรอบอาเซียน เพราะหากเมียนมายังคงเป็นในปัจจุบัน ก็จะเกิดผลกระทบกับประเทศไทยด้วย เพราะเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกันยาว และไทยก็อยากเห็นสันติภาพถาวรในเมียนมา
“ใครที่สามารถช่วยเมียนมาได้ควรช่วย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นช่องทางทางการ เช่น กรณีที่รัฐบาล หรือชนกลุ่มน้อย ขอให้นายทักษิณช่วยนั้น ก็ถือเป็นสิทธิของเมียนมา และชนกลุ่มน้อย ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทย โดยไทยจะยังคงยึดกรอบอาเซียน และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมภายใต้กรอบอาเซียน”นายมาริษ กล่าว
นายมาริษ ยังปฏิเสธกระแสข่าวความพยายามเดินทางกลับประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาจประสานใช้สถานทูตไทยประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นสถานที่ในการรายงานตัว โดยยืนยันว่า ตนเองยังไม่ทราบเรื่อง และเรื่องใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย หรือไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศ ตนขออนุญาตไม่ตอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าสักการะพระพุทธราชไมตรีศรีสัมพันธ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยมีนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย