ระยอง 25 เม.ย. – คพ. ยังคงติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยรอบโกดังเก็บกากของเสียอันตรายและสารเคมีอันตราย พบสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ อะคริโลไนไตรล์ และไฮโดรเจนไซยาไนด์ ในระดับที่จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งความเอาผิดบริษัท วินโพรเสส จำกัด ที่สภ.บ้านค่าย โดยพิจารณาส่งเรื่องถึงดีเอสไอด้วย
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์การระงับเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานของ บริษัท วินโพรเสส จำกัด จังหวัดระยอง โดยระบุว่า ที่อาคาร 5 เชื้อเพลิงประเภทสารเคมีตัวทำละลายต่างๆ ถูกเผาไปหมดแล้ว เหลือเพียงเชื้อเพลิงประเภทกระดาษ พลาสติกซึ่งจะทำให้มีกลุ่มควันไปอีก 2 วัน
จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศวานนี้ (24 เมษายน 2567) บริเวณภายนอกโรงงานและพื้นที่ชุมชนด้านท้ายลม ระยะห่างจากโรงงานไปทางทิศเหนือประมาณ 500 เมตร ถึง 5 กิโลเมตร 8 จุด ตรวจพบสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur Dioxide) อะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) และไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) อยู่ในระดับที่จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง นอกจากนี้เพลิงที่ยังไม่ดับทำให้เกิดกลุ่มควันและเขม่าควันที่ปนเปื้อนไอกรด ทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งคพ. จะเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ได้แจ้งข้อมูลผ่านศูนย์บัญชาการของจังหวัดระยองเพื่อเตือนประชาชน โดยขอให้ยังพักที่ศูนย์อพยพจนกว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้จะยุติและตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมีแล้ว ทั้งยังจะร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจสอบสารเคมีในบรรยากาศโดยใช้รถ Mobile ร่วมกับหน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่เร็วซึ่งประชาชนสามารถแจ้งให้ตรวจสอบได้ทุกจุดที่ประชาชนมีความกังวล
กระทรวงอุตสาหกรรมส่งผู้แทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัท วินโพรเสส จำกัด ที่สภ. บ้านค่ายเนื่องจากบริษัทดังกล่าว ถูกสั่งปิดไปแล้ว แต่ยังเก็บสารเคมีอันตรายไว้ในบริเวณโรงงาน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จึงลุกลามเป็นวงกว้าง จากนี้จะตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพิ่มเติม โดยจะพิจารณาส่งเรื่องถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วย
จากการที่จังหวัดระยองได้ออกประกาศให้พื้นที่หมู่ที่ 1-11 ตำบลหนองบัวและหมู่ที่ 1-12 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย จะทำให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในพื้นที่ประสบภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แผนป้องกันสาธารณภัยแห่งชาติ แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยได้ส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลในพื้นที่และให้ผู้ป่วยติดเตียงย้ายไปอยู่ในที่เหมาะสมแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทางสาธารณสุขจังหวัดจะตรวจร่างกายเพื่อป้องกันการได้รับดูดดมหรือสัมผัสสารเคมีในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีอาการจะรักษาต่อไป. 512 – สำนักข่าวไทย