ทำเนียบรัฐบาล 23 เม.ย.-“ปานปรีย์” เผย ประชุม คกก.เฉพาะกิจไทย-เมียนมาเรียบร้อยดี เตรียมลงพื้นที่แม่สอดบ่ายนี้ ด้านโฆษก กต. ยันไทยมีแผนรับผู้ลี้ภัย พร้อมเจรจากับกองกำลังทุกกลุ่ม หากเมียนมาร้องขอ
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา โดยที่ประชุมประเมินว่าสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายชั่วโมงและรายวัน โดยบ่ายนี้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะลงพื้นที่อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในเรื่อง ทั้งสถานการณ์สู้รบในฝั่งเมียนมา การดูแลความสงบเรียบร้อยของคนไทย การให้ความช่วยเหลือตามหลักพื้นฐานมนุษยธรรม และวิธีที่จะให้ความช่วยเหลือ
นายนิกรเดช กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศ ยืนยันใน 3 หลักการ ได้แก่ 1.การยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย ดูแลคนไทยไม่ให้ได้นับผลกระทบ 2.ไม่ให้ใช้ดินแดนไทยดำเนินกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลต่างประเทศ และ 3.ยึดหลักมนุษธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยนายปานปรีย์ ในฐานะประธานการประชุมสั่งการให้ติดตามสถานการณ์ มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลัก กระทรวงการต่างประเทศ คุยกับฝ่ายต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ ที่ให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือ และการประสานท่าทีกับมาอาเซียน ยืนยันว่าไม่สามารถตั้งกองกำลังในฝั่งไทยได้ ซึ่งเมียนมาทราบดีถึงแนวปฏิบัตินี้
“การลงพื้นที่บ่ายนี้ของนายปานปรีย์ จะไปดูแผนต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ ยืนยันว่าฝ่ายไทยมีความพร้อมหากมีผู้หนีภัยสงครามและการสู้รบที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ตัวเลขผู้อพยพ การมา-การกลับถือเป็นตัวเลขผู้หนีภัยที่ควบคุมตัวเลขไม่ได้ เพราะเราให้ความช่วยเหลือตามหลักพื้นฐานด้านมนุษยธรรม ดังนั้นผู้หนีภัยคือผู้ที่ได้รับอันตราย ไทยให้การช่วยเหลือทั้งหมด โดยการกลับไปยังประเทศต้นทางมี 2 หลักการ 1. ประสงค์กลับด้วยความสมัครใจ 2.การกลับต้องปลอดภัย ผู้ลี้ภัยมีความประสงค์กับอยู่เนือง ๆ ตัวเลขการเข้า-ออกของผู้หนีภัยค่อนข้างปรับเปลี่ยนตลอดเวลา”นายนิกรเดช กล่าว
นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ไทยพร้อมพูดคุยกับกองกำลังแต่ละกลุ่มในเมียนมา แต่ต้องได้รับการขอร้องจากฝ่ายเมียนมา ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการขอร้อง เขาน่าจะคุยกันเองอยู่ ไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกันกว่า 2,000 กิโลเมตร มีความกังวลไม่อยากให้มีการสู้รบในเมียนมา เราต้องการให้มีสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในเมียนมา บทบาทไทยในอนาคต หากทุกฝ่ายเห็นว่าไทยพร้อมเข้าไปคุยกับทุกฝ่าย เราก็พร้อม แต่ต้องได้รับการร้องขอจากเมียนมาก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปานปรีย์ เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา ที่สํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.50 น.โดยกล่าวทักทายสื่อมวลชนเพียงว่า “สบายดี” และในเวลา 10.05 น.นายปานปรีย์ ขึ้นรถประจำตำแหน่ง เพื่อเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีที่ตึกบัญชาการ กล่าวกับสื่อมวลชนเพียงว่า จะไปประชุม ครม. ก่อนจะเปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนขึ้นตึกบัญชาการถึงผลการประชุมว่า “เรียบร้อยดี” โดยเย็นวันนี้เวลา 16.00 น. นายปานปรีย์ มีกำหนดการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ในพื้นที่ตามแนวชายแดนบริเวณตลาดริมเมย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 .-317.-สำนักข่าวไทย