ทำเนียบรัฐบาล 18 เม.ย.-“ไชยา” รมช.เกษตรฯ บอกไม่หวั่นไหวกระแสปรับ ครม. แต่ 7 เดือน เร็วเกินไป ยังไม่ได้ใช้งบฯ ขับเคลื่อนนโยบาย ลั่นกระทรวงเกษตรฯ ต้องเป็นของเพื่อไทย ถามฐานเสียงอยู่อีสาน ทำงานตอบโจทย์หรือยัง
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่า ทราบจากข่าว แต่ไม่ได้หวั่นไหวอะไร 7 เดือนที่ผ่านมาทำหน้าที่ในกรอบ ในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ ตนไม่ขัดข้อง การขับเคลื่อนในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลแม้กระทรวงเกษตรฯ จะประกอบไปด้วยรัฐมนตรีจากพรรคต่าง ๆ แต่การทำงานไม่มีอุปสรรค
“แม้ระยะแรก ๆ อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างกว่าจะลงตัว กว่าจะเป็นทีมเดียวกันก็ใช้เวลา หลังจากนี้เมื่องบประมาณผ่านแล้ว จะขับเคลื่อนงานตามนโยบาย เรื่องปรับครม.แล้วแต่ผู้ใหญ่ ขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณ ผมยังทำหน้าที่ของตัวเองตามตารางงาน ที่วางแผนไว้แล้ว เมื่อช่วงเช้าก็จรจาเรื่องการส่งสินค้าปศุสัตว์ไปจีน” นายไชยา กล่าว
ส่วนที่เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพูดคุยเรื่องการปรับครม.หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ไม่มี ตนไปรดน้ำดำหัว
เมื่อถามย้ำว่าหากถูกปรับจริง ไม่เสียใจใช่หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ตนเป็นนักการเมือง ไม่ห่วงเรื่องนั้น ห่วงอย่างเดียวว่าการปรับแล้ว หากเราวางเป้าว่า จะทำเพื่อการแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ประชาชนได้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล กระทรวงเกษตรเป็นกระทรวงที่เราขับเคลื่อนนโยบายที่เราให้ความสำคัญ วันนี้งบประมาณปี 67 ออกแล้ว งบประมาณปี 68 กำลังจะพิจารณา ดังนั้น ต้องแก้ไขปัญหาประชาชนให้ได้
“ภาคอีสานต้องการเรื่องน้ำอย่างเดียว ถามชาวบ้าน ผมเป็นผู้แทนมา 9 สมัย ชาวบ้านต้องการรถไฟลอยฟ้าอยู่หรือไม่ รถไฟความเร็วสูงหรือไม่ เขาต้องการน้ำ เพราะฉะนั้น ไม่กลับโปรเจกต์ที่ต้องทำในภาคอีสานคือการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง กรมชลประทาน โครงการน้ำโขง-ชี-มูล ผ่านการศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปี2563 งบประมาณมีแผนงานมีแต่ไม่มีการขับเคลื่อน ผมถึงบอกว่าการปรับครม.เที่ยวนี้ กระทรวงเกษตรต้องอยู่กับเพื่อไทย” นายไชยา กล่าว
เมื่อถามว่า เร็วเกินไปหรือไม่หากจะปรับครม.ตอนนี้ นายไชยา กล่าวว่า เร็วเกินไป เนื่องจากเราเข้ามา 7 เดือน งบประมาณที่เราใช้ไปพลางก่อนเป็นงบประจำ เป็นเงินเดือนค่าตอบแทน แต่งบลงทุนเราแทบไม่ได้ขับเคลื่อน
เมื่อถามย้ำว่า กระทรวงเกษตรฯ ต้องอยู่กับพรรคเพื่อไทย มองว่าการปรับครม. ครั้งนี้ต้องรวมไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการด้วยหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ตนมองในภาพรวม ในฐานะที่เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กระทรวงเกษตรฯ อยู่กับเป็นกระทรวงที่อยู่กับวิถีชีวิตชาวบ้าน ฐานเสียงของเพื่อไทยอยู่ที่อีสาน ตอนนี้เราได้เสียงเป็นกอบเป็นกำที่อีสาน แต่เราตอบโจทย์คนอีสานเรื่องอะไรบ้าง เรื่องระบบชลประทานเรื่องน้ำ เรื่องงบประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทเกือบแสนล้านบาท ลงไปที่อีสานเท่าไหร่ เรื่องราคาพืชผลการเกษตร ข้าว เหล่านี้อยู่กับวิถีชีวิตของคนอีสาน องค์คาพยพของกระทรวงเกษตรฯ ทางด้านอุตสาหการ เปลี่ยนมายเซ็ทของเกษตรกร ว่าการผลิตทุกวันนี้ไม่ใช่การผลิตเพื่อปริมาณอีกแล้ว แต่เป็นการผลิตและวิเคราะห์ตลาดว่าต้องการอะไร เหล่านี้คำถามคือ องค์คาพยพ ของกระทรวงเกษตรฯได้ตอบโจทย์เหล่านี้เพียงพอหรือยัง
“ถ้าจะปรับกันจริงๆ หรือเวลาจากนี้ไปกว่าจะถึงเลือกตั้งจะกี่ปีก็ช่าง ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผมนั่งตรงนี้ ใครก็ได้ที่เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้แต่กระทรวงคมนาคม เรามีรัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยเป็นทีมเดียวกัน วันนี้แม้เราจะอยู่ต่างพรรคก็ตาม เราก็ไม่มีปัญหา อันนี้พูดเชิงหลักการว่าเพื่อไทยเป็นแกนนำต้องขับเคลื่อนอย่างไร ผมอยากตอบโจทย์พี่น้องประชาชนที่เลือกผมมา” นายไชยา กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย