สืบนครบาลทลายซุ้มโจรหนองจอก ปล้น-ฆ่า-ค้ายา-ค้าอาวุธ

กรุงเทพฯ 8 เม.ย. – สืบนครบาลซ้อนแผนปล้น 36 ชั่วโมง ทลายซุ้มโจรเบอร์ 1 แห่งหนองจอก รวบ 3 เสือแก๊ง “ทางเดินเสือ” พร้อมสมุน ร่วมกันปล้น-ฆ่า-ค้ายา-ค้าอาวุธ นับไม่ถ้วน ยึดปืน 9 กระบอก


จากกรณีมีประชาชนร้องขอให้สืบนครบาลช่วยปราบ “แก๊งทางเดินเสือ” ซุ้มโจรชั่วแห่งหนองจอก เป็นที่หวาดผวาและสุดจะเอือมระอาของประชาชนในพื้นที่ละแวกชานเมือง ตระเวนก่อเหตุ ปล้น-ฆ่า-ค้ายา-ค้าอาวุธ จนเป็นที่หมายหัวของตำรวจในพื้นที่ แต่เจ้าตัวสามารถหลบหนีการจับกุมแล้วยังมีการฝากจดหมายน้อยมาเยอะเย้ยตำรวจว่า “จับผมไม่ได้หลอก” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ปราบปรามแก๊งนี้ และเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวแก๊ง “ทางเสือเดิน” จำนวน 6 ราย ดังนี้

  1. นายณัฐวุฒิ หรือไอ้เสือ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1352/2566 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ และร่วมกันลักทรัพย์” ประวัติการก่อคดีมาอย่างโชกโชน พ.ศ.2563 ก่อเหตุ “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1ฯ” , พ.ศ. 2564 ก่อเหตุ “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1ฯ” , พ.ศ.2564 ก่อเหตุ “ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ” , พ.ศ.2566 ก่อเหตุ “ร่วมกันพยายามฆ่า , ร่วมกันลักทรัพย์” (ตามหมายจับ) หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
  2. นายนว หรือเสือเก๋า อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.341/2567 ลงวันที่ 4 มี.ค. 67 ข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปฯ” พบเบาะแสว่าเคยร่วมกับ นายอารักษ์ฯ (กี้) ก่อคดี ปล้น-ฆ่า-ฉ้อโกง-อาวุธปืน มาหลายคดีและหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
  3. นายอารักษ์ หรือเสือกี้ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.341/2567 ลงวันที่ 4 มี.ค. 67 ข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปฯ” พบเบาะแสว่าเคยร่วมกับ นายนว (เก๋า) ก่อคดี ปล้น-ฆ่า-ฉ้อโกง-อาวุธปืน มาหลายคดีและหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
  4. นายบูรพา หรือภู อายุ 20 ปี
  5. น.ส.ปริษา เสาวรส หรือสา อายุ 19 ปี
  6. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี

โดยทั้ง 6 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง ปืนเถื่อนจำนวน 9 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน โดยจับกุมและตรวจค้นที่ บ้านหลังหนึ่งใน ซ.เลียบวารี 11 ถ.เลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก จ.กรุงเทพฯ


จากวงรอบการก่อเหตุ ภูมิศาสตร์ และเบาะแสจากสายข่าวล่าสุดว่าเห็นพลพรรคซุ้มโจรนี้ซุ่มอยู่ละแวก ร้านสะดวกซื้อ ย่านถนนเรียบวารี ทำให้เกิดวิเคราะห์ว่า “ต้องมีการปล้นเกิดขึ้นแน่” ส่งชุดสืบสวนพิเศษลงพื้นที่เฝ้าละแวกที่น่าจะมีการปล้นเกิดขึ้นกว่า 36 ชั่วโมงที่ชุดสืบสวนกินนอนและเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บนรถ จนกระทั่งวันที่ 8 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 03.30 น. ชุดสืบสวนเห็นรถต้องสงสัยมาจอดซุ่มและปล่อยคนลงไปดูลาดเลาในร้านสะดวกซื้อ ก่อนนำกำลังเข้ารวบตัว 2 เสือ ลูกสมุนของหัวหน้าแก๊งไว้ได้ และนำตัวบุกไปเข้าค้นเซฟเฮาส์ลับที่ “ไอ้เสือ” หัวหน้าแก๊งกบดานอยู่ โดยเมื่อชุดสืบสวนไปถึง ไอ้เสือไหวตัวทัน กระโดดปีนกำแพงหลังบ้านหนีชุดสืบสวนเข้าไปในป่ากบ แต่เจ้าหน้าที่ไล่ล่าไปอย่างกระชั้นชิด สุดท้ายไอ้เสือหนีไม่รอดเพราะได้รับบาดเจ็บจากการกระโดดปีนกำแพงทำให้แขนหัก (เดิมหักอยู่แล้วกำลังรักษา) ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด และจากการตรวจค้นในเซฟเฮาส์พบปืนเถื่อน 9 กระบอก โดยชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวคนร้ายในเซฟเฮาส์ได้ทั้งสิ้น 6 ราย

หลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช สั่งการขยายผลถึงที่สุด จนชุดสืบสวนพบข้อมูลว่า แก๊งนี้เรียกได้ว่า เป็นพ่อค้าอาวุธปืนรายใหญ่ในย่านหนองจอก พบประวัติการขายอาวุธปืนเถื่อนแล้วกว่า 2,000 กระบอก ด้วยวิธีการ “ตบ” หรือ “ยึดปืน” เอามาจากเด็กวัยรุ่นในย่านดังกล่าว เอามาสะสมรวมกันใน คลังแสง ก่อนจะประกาศขายทางช่องทางออนไลน์ โดยจะขายในราคากระบอกละตั้งแต่ 10,000 – 20,000 บาท ซ้ำแล้วความชั่วยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อได้หลงเข้ามาสั่งซื้อปืนจากแก๊งนี้ ซึ่งได้วางกลอุบายไว้เป็นแบบแผน โดยจะนัดลูกค้าให้มารับของด้วยตนเอง แต่เมื่อลูกค้ามาถึงจุดนัดหมาย ตรวจสอบสินค้าแล้วโอนเงินให้ตามที่ได้ตกลงไว้ แก๊งนี้กลับได้ยกพวกกว่า 10 คน รุมล้อมและใช้อาวุธปืนจี้ ปล้นทั้งเงินและทั้งปืนกลับไป ซึ่งขณะนี้มีผู้ได้รับความเสียหายจากการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ไม่ต่ำกว่า 20 ราย

ในชั้นจับกุม นายนว และนายอารักษ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเสือ หัวหน้าแก๊ง ได้รู้จักและเป็นเพื่อนกับนายเก๋า หัวโจกและนายกี้ มาตั้งแต่สมัยวัยเด็กชั้นประถม ก่อนจะได้แยกย้ายกันไปและโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อทุกคนอายุได้ประมาณ 17 ปี ซึ่งในขณะนั้น พวกของตนได้เริ่มเกเรและมักจะมีเรื่องกับกลุ่มคู่อริต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เริ่มสนใจการเก็บสะสมอาวุธปืนในลักษณะที่เป็นปืนไทยประดิษฐ์ จนเมื่อประมาณต้นปี 2566 นายเก๋า ได้เคยสั่งซื้ออาวุธปืนจากทางออนไลน์ และกำลังจะเดินทางไปรับพัสดุที่ได้สั่งซื้อไว้ แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมได้พร้อมกับของกลางเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก ทำให้ต้องโทษคดีเป็นครั้งแรก และได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำประมาณ 10 วัน ก่อนจะได้ประกันตัวออกมาต่อสู้คดีจนถึงปัจจุบัน  


หลังจากนายเก๋า ได้ประกันตัวออกมานั้น ได้กลับมารวมกลุ่มกันตั้งแก๊ง “ทางเดินเสือ” โดยมีนายเสือ เป็นหัวโจก และได้เริ่มสะสมอาวุธปืนมากขึ้น โดยจะสั่งซื้อจากทางออนไลน์ในราคากระบอกละ 500 – 2,000 บาท และบางครั้งก็จะใช้วิธีการ “ตบ” หรือยึดปืนเอาจากคนอื่นมาเป็นของตน จากนั้นจึงได้เริ่มขายอาวุธปืนทางออนไลน์ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก และไลน์ โดยจะขายในราคาประมาณกระบอกละ 5,000 – 20,000 บาท โดยในช่วงพีกตนเองกับพวกเคยมีรายได้จากการขายปืนมากสุด เดือนละประมาณ 20,000 บาทต่อคน   

ส่วนอาวุธปืนของกลางที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้วันนี้ เป็นปืนของสะสมของนายเสือฯ นายเก๋า และนายกี้ฯ ส่วนอาวุธปืนที่ได้แพ็กใส่กล่องพัสดุเรียบร้อยแล้วนั้น นายเก๋า กับนายกี้ เตรียมจะไปส่งขายในราคา 5,000 บาท แต่ลูกค้ายังไม่ได้โอนเงินจึงยังไม่ได้นำไปส่ง ก่อนจะได้มาถูกจับกุมในวันนี้

ส่วน นายณัฐวุฒิ หรือ เสือ ยังปากแข็ง เลือกตัดขาดโยนความผิดให้เพื่อนรับเต็มๆ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เช่นเดียวกันกับ ผู้ถูกจับอีก 3 คน ที่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยอ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นใดในการค้าขายอาวุธปืนเถื่อนมาก่อน หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้าย เพราะคนร้ายกลุ่มแก๊งนี้ ถือได้ว่าเป็นภัยร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในละแวกดังกล่าว ซึ่งอาวุธปืนเถื่อน ถือเป็นสารตั้งตนที่อาจนำไปสู่หายนะ หรืออาชญากรรมที่รุนแรงได้ จนมีประชาชนเข้ามาร้องเรียนผ่านเพจสืบนครบาล ให้จัดการโดยเร่งด่วน ผมจึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ว่าหากพบเห็นการซื้อขายปืนเถื่อนหรืออาวุธในโลกออนไลน์และหากท่านทราบเบาะแสโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB”  เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ศาลยกฟ้อง “ตู้ห่าว-พวก” คดีอาชญากรข้ามชาติ-ฟอกเงิน-ยาเสพติด

ศาลพิพากษายกฟ้อง “ตู้ห่าว-อดีตภรรยาตำรวจหญิง” และพวกรวม 19 คน ฐานค้ายา ฟอกเงิน อั้งยี่อาชญากรรมข้ามชาติ ศาลชี้พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ส่วนอีก 6 คน มีความผิดข้อหายาเสพติด อาวุธปืน จัดตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ สั่งจำคุกและปรับหลายกระทง

“ปอล วี” สร้างประวัติศาสตร์ คว้าทองแดงศึกเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2025

“ปอล วี” ทำได้ สกีฟรีสไตล์ ประเภทสโลปสไตล์ คว้าเหรียญแรก และเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ให้กับประเทศไทย