กทม. 1 เม.ย.-“สุทิน” รับคุยจีน เปิดข้อเสนอใหม่ ยกเลิกเรือดำน้ำ เปลี่ยนเป็นเรือผิวน้ำ ชี้สังคมไทยไม่มั่นใจ คุณภาพเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ยืนยันเงินที่จ่ายไปแล้วไม่สูญเปล่า ลั่น เม.ย.นี้ จบแน่ นำเข้า ครม. พิจารณา
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึง การเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ไปพูดคุยเจรจาเรื่องเรือดำน้ำ เพราะอยากให้จบ ซึ่งเป็นความตั้งใจตั้งแต่ต้นเมื่อเข้ารับตำแหน่ง ว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้น แต่ยังมีความกำกวมเรื่องข้อกฎหมาย จึงส่งให้หลายหน่วยงานตีความ เมื่อตีความเสร็จสิ้นก็ตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อรับฟังข้อมูล หลังจากคณะทำงานดำเนินการจบแล้ว ก็พอจะรู้แนวโน้ม ก็รีบหาทางออกไว้หลายทาง เพื่อให้สอดคล้องการตีความและผลของคณะทำงาน จึงได้เดินทางไปจีน ซึ่งได้หารือกันหลายแนวทางว่า แนวทางใดบ้างที่จีนจะร่วมมือกับเราและไปได้ในข้อกฎหมายและคณะทำงานของเรา
“แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องฟังความเห็น ครม. เพราะการจะเป็นมติใดๆ ทุกคนต้องรับผิดชอบ ว่าเขาสบายใจหรือไม่สบายที่จะต้องเลือกแต่ละแนวทาง การไปจีนผมได้เสนอหลายแบบ ถ้าเดินหน้าเรือดำน้ำจะเป็นอย่างไร โดยจะทำอย่างไรให้ ครม. สบายใจ สังคมเข้าใจ แนวทางที่ 2 คือการยกเลิกได้ไหม ถ้ายกเลิกเงินงวดที่จ่ายไปก่อน จะทำอย่างไร ซึ่งเรากับจีนมีความเห็นตรงกันหลายเรื่องที่มีประโยชน์ โดยหลักที่ผมนึกก็คือ กองทัพเรือได้ประโยชน์ และตรงใจเขามากที่สุด อาจจะไม่ใช่ 100 เปอร์เซนต์ หรือ First Choose ช้อยต์ แต่อาจเป็น Second Choose” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวว่า ข้อแรกต้องเป็นไปตามแผนกองทัพเรือที่วางไว้ ข้อที่สอง เงินที่จ่ายไปต้องไม่สูญหาย และข้อที่สามประเทศต้องได้ประโยชน์ ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีว่าเราจะได้ทั้งสามอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเงินที่เราจ่ายไปก่อน ไม่ว่าออกทางไหน เงินก็ไม่สูญเปล่า เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว ก็ให้กองทัพเรือไปทำการบ้าน ซึ่งทางฝั่งจีนก็กลับไปทำการบ้านเช่นกัน
“วันนี้ (1เม.ย.) จะเป็นการคุยกันอีกขั้นตอนหนึ่ง ผ่านวีดีโอคอลกับทางจีน ถ้าพูดคุยกันได้ในวันนี้ได้ข้อยุติ ก็จบ ถ้าไม่จบ ก็ต้องเดินทางไปจีนอีกรอบ ต้องยอมรับว่าพูดคุยครั้งเดียวคงยาก แต่จะทำให้จบเร็วที่สุด” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะมีการยกเลิกโครงการเรือดำน้ำแล้วไปซื้อเรือฟริเกตแทนนั้น นายสุทิน กล่าวว่า เรือดำน้ำก็เป็นทางเลือกหนึ่งว่าเป็นเรือจีน (เครื่องยนต์) แต่ทำให้เราสบายใจได้หรือไม่ว่า คุณภาพได้รับการอ้างอิงและรับรอง
ส่วนประเด็นที่สองถ้าเปลี่ยนเรือฟริเกต หรือ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (OPV) ก็ต้องถามกองทัพเรือว่า รับทางเลือกนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่เอาเรือดำน้ำ ก็เป็นการเรียงลำดับกันอยู่ ดังนั้นถ้าไม่ได้เรือดำน้ำก็เป็นเรือฟริเกต หรือ เรือOPV จึงยังไม่สรุปว่าเป็นแนวทางใด แต่ทุกแนวทางเป็นประโยชน์กับประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะจบภายในเดือน เม.ย.67 แล้วนำเข้า ครม. เดือน เม.ย.67 ด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่าการเดินทางไปเยือนจีนไปพูดคุยกับคณะทางจีนระดับใด นายสุทิน กล่าวว่า คณะของตนเองไปพูดคุยกับคณะทำงานของประเทศจีน ต่างฝ่ายต่างได้ข้อเสนอต่างๆ ก็นำไปคุยกับรัฐบาลของตัวเอง เมื่อรัฐบาลสองฝ่ายเห็นว่าไปได้ก็จะมาคุยกันเอง ขั้นตอนจะจบต่อเมื่อตนคุยกับคณะทางการของจีนอีกครั้ง
ส่วนสาเหตุของการจะยกเลิกเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า ที่คุยกับทางจีนคือสังคมไทยยังติดใจอยู่ว่า ไม่เป็นไปตามข้อตกลงและยังไม่สบายใจคุณสมบัติเรือดำน้ำ พูดง่ายๆ คือคนไทย ยังคิดว่าไม่ได้อย่างที่ตกลงกัน และยังไม่มั่นใจในคุณสมบัติในเครื่องยนต์ (CHD 620) ที่ไม่เคยใช้ที่ใด อันนี้เป็นความลำบากใจของเรา ให้ทางจีนเข้าใจตรงนี้ด้วย ซึ่งตนก็ได้แสดงความเห็นใจกับทางเขาไปด้วย เพราะเขาได้ดำเนินโครงการมาแล้ว ดังนั้นจะพบกันตรงไหน ไม่ให้สองฝ่ายเสียประโยชน์
เมื่อถามว่าข้อเสนอยกเลิกโครงการเรือดำน้ำ มาจากฝั่งรัฐบาลหรือคณะกรรมการศึกษาแนวทางที่เหมาะสมโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ระยะที่ 1 ของกระทรวงกลาโหม นายสุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการฯ เสนอ 2-3 แนวทาง โดยเสนอทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อใดปฏิบัติได้หรือไม่ได้ และสิ่งที่ตนต้องฟังอย่างไม่เป็นทางการจาก ครม. โดยจะต้องดูมติที่เขาด้วย อะไรที่ ครม. และพรรคร่วมไม่สบายใจ เราก็ไม่อยากทำ
เมื่อถามถึงท่าทีของจีนหากมีการยกเลิกโครงการเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า เขาไม่ได้แข็งกร้าว เขามีท่าทีรับพิจารณา แต่มีเงื่อนไขว่า ถ้าเป็นเรือฟริเกต หรือ เรือOPV ต้องมาคุยกันเรื่องราคา โดยเป็นเงินที่เราจ่ายไปแล้ว และเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบด้วย เขาไม่ได้ปิดแนวทางนี้
ทั้งนี้ จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับจีนหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ดูท่าทีแล้วน่าจะพูดแล้วเข้าใจกัน ต่างฝ่ายต่างเห็นใจกัน ไม่น่ากระทบความสัมพันธ์มาก เว้นแต่ว่าเราอยากได้หรือเอามากเกินไป
ก็อาจกระทบกระเทือนอยู่ แต่ ณ วันนี้ ที่พูดตามแนวทางที่เสนอ ยังไม่กระทบความสัมพันธ์
เมื่อถามว่าการยกเลิกโครงการเรือดำน้ำ กังวลในข้อกฎหมายที่จะมีการร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตามมาหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อตีความตามข้อกฎหมายแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นมติ ครม. สามารถทำได้ แต่มติ ครม. ก็ต้องยืนอยู่บนกฎหมายและผลประโยชน์ประเทศ
ส่วนการจัดหาเรือฟริเกตจะเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อบรรจุในงบประมาณปี 2568 หรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรี พิจารณา กระทรวงกลาโหมไม่ขัดข้อง เป็นดุลพินิจนายกฯ เพราะเกี่ยวข้องกับตารางงบประมาณ ถ้ามีเรือฟริเกตและมีเรือดำน้ำ จะจัดงบอย่างไร เพื่อไม่ให้งบพอกมากเกินไปในแต่ละปี อาจจะเรียกว่าเป็นเทคนิคการบริหารเงินว่าสิ่งใดก่อนหรือหลัง
เมื่อถามถึงการเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการไปดูเรือฟริเกตหรือเรือดำน้ำ แต่เป็นการเดินทางไปตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ การสานความสัมพันธ์ และไปดูเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ พร้อมเยี่ยมกองกำลังสหประชาชาติ ที่มีกำลังพลจากทหารไทยไปปฎิบัติหน้าที่อยู่ ในโอกาสนี้ทางกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้เชิญไปดูเครื่องบินรบ T-50 ที่ไทยจัดหา และรอส่งมอบอีก 2 เครื่อง และไปดูโครงการผลิตด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย