รัฐสภา 9 ส.ค.-คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เสนอกระจายอำนาจ แต่งตั้งรองผู้บังคับการภาคลงมา ให้ผู้บังคับการภาคตั้ง ส่วนผบ.ตร. จเร รองผบ.ตร. ให้ ผบ.ตร. ตั้งเหมือนเดิม
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) เปิดเผยว่า วันนี้(9 ส.ค.) อนุกรรมการด้านบริหารงานบุคคลได้เสนอเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจต่อที่ประชุม โดยเสนอให้กระจายอำนาจการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตั้งแต่รองผู้บังคับการภาคลงมาให้ผู้บังคับการภาคเป็นคนแต่งตั้ง ซึ่งจะมีอิสระในการดูแลบริหารบุคคลภายในภาคของตัวเอง ขณะที่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) จเรตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับการภาคให้ผบ.ตร.แต่งตั้งเช่นเดิม
“ขั้นตอนการคัดเลือกตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ เริ่มจากผบ.ตร.คนปัจจุบันต้องคัดเลือกรายชื่อจากจเรตำรวจ และรองผบ.ตร. ส่งให้คณะกรรมการตำรวจพิจารณาแล้วเสนอต่อผบ.ตร. เพื่อส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนขั้นตอนการคัดเลือกรอง ผบ.ตร.ถึงผู้บังคับการ ผบ.ตร. จะเป็นผู้คัดรายชื่อส่งให้คณะกรรมการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ และส่งกลับมาให้ผบ.ตร. นำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอหลักการแต่งตั้งให้พิจารณาจากระบบอาวุโส ร้อยละ 33 พิจารณาจากความรู้ความสามารถ จากรางวัลที่ได้รับ ร้อยละ 33 และดูจากความเหมาะสม ร้อยละ 34 ทั้งนี้ คณะกรรมการจะวางแนวทาง เพื่อป้องกันการแทรกแซงการแต่งตั้ง ซึ่งหากพิจารณาจากขั้นตอนแต่งตั้งจะมีกระบวนการกลั่นกรองอย่างเป็นระบบ ส่วนเรื่องงบประมาณยังไม่ได้ข้อสรุป แต่มีข้อเสนอให้ตำรวจภาคทำหน้าที่คล้ายนิติบุคคล บริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ สามารถเสนองบไปยังสำนักงบประมาณได้เอง เป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายสมคิด กล่าวว่า คณะอนุกรรมการได้เสนอให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เป็นผู้พิจารณารายชื่อก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลบคำครหาให้ฝ่ายการเมืองมีส่วนในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเพราะจากเดิมเป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) แต่ ก.ต.ช.ยังคงอยู่เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายให้กับตำรวจต่อไป
นายสมคิด กล่าวว่า คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นที่มีพล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ เป็นประธาน ได้กำหนดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน 4 ภาค โดยกำหนดวันที่ 25 สิงหาคมนี้ จัดขึ้นที่ศูนย์ราชการ วันที่ 31 สิงหาคม จัดขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 7 กันยายน จัดขึ้นที่จังหวัดลำปาง และ วันที่ 20 กันยายน จัดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น.-สำนักข่าวไทย