กรุงเทพฯ 7 ก.พ. – หนุ่มญี่ปุ่นร้องขอความช่วยเหลือ ถูกแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่นรุ่มทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แต่อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาโทษเพียงจำคุก 2 เดือน ให้รอลงอาญา แฉพวกยากูซ่าใช้ไทยเป็นที่ฟอกเงินธุรกิจสีเทา ด้าน “เอกภพ” จ่อแจ้ง “บิ๊กโจ๊ก” ปราบ
ผู้เสียหายคือ นายเทตซูโอ ชาวญี่ปุ่น อายุ 35 ปี ร้องขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และวันนี้ (7 ก.พ.) ได้พาผู้เสียหายไปพบนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน
ที่มาของเรื่องคือ เมื่อปี 65 หนุ่มชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านพระโขนง จู่ๆ ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุ 5 คน เข้ามาทำร้าย ซึ่งผู้เสียหายระบุว่าเป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น มีการถือไม้กอล์ฟเข้ามารุมตี และลากไปทำร้ายที่หน้าร้านจนสลบ บาดเจ็บสาหัส จมูกหัก ตาแตก ฟกช้ำทั่วตัว พักรักษาตัวกว่า 2 เดือน หมดเงินค่ารักษาตัวไปกว่า 400,000 บาท ตอนนั้นไปแจ้งความที่ สน.คลองตัน และต้นปีที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนส่งฟ้องสำนวนต่ออัยการ ให้ดำเนินคดีผู้ต้องหา ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อัยการกลับสั่งฟ้องเพียงแค่ทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่บาดเจ็บสาหัส
เมื่อผู้ต้องหารับสารภาพก็ถูกพิพากษาจำคุก 2 เดือน ให้รอลงอาญา และเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา อัยการส่งหนังสือให้ตนเองไปยื่นเรื่องฟ้องเรียกค่าเสียหาย แต่หนังสือมาถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เมื่อติดต่อกลับไปปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ตนเองจึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
ส่วนสาเหตุที่ถูกรุมทำร้ายนั้น ผู้เสียหายบอกว่าน่าจะมาจากก่อนหน้านี้ตนเองเคยรู้จักกับหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากการที่เคยเป็นพาร์ตเนอร์ทำธุรกิจร้านคาราโอเกะและร้านอาหาร แต่ขัดแย้งกันเพราะอีกฝ่ายพยายามแย่งชิงอำนาจบริหาร จึงแตกคอกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุไปเข้ากับกลุ่มแก๊งยากูซ่ารายใหญ่ของญี่ปุ่น
ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่าแก๊งนี้เกี่ยวข้องกับการต้มตุ๋นหลอกลวงที่ประเทศญี่ปุ่นและนำเงินมาฟอกเงินในไทย ผ่านการเปิดร้านอาหารและธุรกิจต่างๆ ซึ่งเคยแจ้งข้อมูลให้หลายหน่วยงานแล้ว แต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะทางหน่วยงานต่างๆ อ้างว่าข้อมูลไม่เพียงพอ หลังเกิดเหตุตนเองยังได้รับข้อความข่มขู่ว่าจะอุ้มไปฆ่า
ขณะที่นายเอกภพ บอกว่าจะนำเรื่องของแก๊งยากูซ่าที่เข้ามาทำธุรกิจสีเทาในไทย ไปร้องต่อ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นอกจากหนุ่มญี่ปุ่นแล้ว วันนี้ยังมีเพื่อนคนไทยอีกคนที่มาให้ข้อมูลว่าถูกแก๊งยากูซ่าแก๊งนี้ทำร้ายเช่นกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมปีที่แล้ว ถูกรุมต่อย มีการใช้ที่เขี่ยบุหรี่ ขวดโซดาขว้างใส่ และยังเอาบุหรี่มาจี้ที่ตาของตนเองด้วย แก๊งนี้มี 5 คน คือ นายชุนจิ หัวหน้าแก๊ง หลังเกิดเหตุได้กลับญี่ปุ่นไปแล้ว คนที่ 2 ซาวายะ ตอนนี้อยู่ในไทยแบบ Over Stay คนที่ 3 ฮิเดนโนบุ คนที่ 4 ทาเคชิ ส่วนคนที่ 5 ไม่รู้จัก
นายโกศลวัฒน์ บอกว่า จากเอกสารพบว่าอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงกรุงเทพใต้ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลไปแล้ว แต่ไม่พบเอกสารที่พนักงานสอบสวนนำใบรับรองแพทย์ว่าบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาเป็นเวลานาน ส่งให้อัยการ ดังนั้น จะสอบถามเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงจากอัยการคดีศาลแขวงก่อน ส่วนคดีมีการฟ้องไปแล้ว และศาลพิพากษาไปแล้วนั้น การจะรื้อคดีอาญาเป็นเรื่องยาก แต่ยังสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ ซึ่งสำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ พร้อมจะช่วยเหลือผู้เสียหาย.-สำนักข่าวไทย