รัฐสภา1 ก.พ.- “ปกรณ์วุฒิ” โวยกลางสภาฯ ถูกยึดห้องวิปฝ่ายค้านหลังบังลังก์ ชี้ กลายเป็นการครอบครองปรปักษ์ เอื้อสส.รัฐบาลเพียงคนเดียว ด้าน “หมออ๋อง” สั่งคืนห้อง ย้ำต้องจบวันนี้
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(1 ก.พ.) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีวาระให้สส. ปรึกษาหารือ ปรากฏว่านายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน หารือ เรื่องการประสานงาน ระหว่างวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านที่ค่อนข้างขลุกขลัก ซึ่งสมัยสภาชุดที่แล้ว จะมีห้องประสานงานของวิปรัฐบาลอยู่ทางซ้ายหลังบัลลังก์ ขณะที่ห้องประสานงานของวิปฝ่ายค้านจะอยู่ด้านขวา ปัจจุบันซ้ายมือสุดเป็นของวิปรัฐบาล แต่ห้องขวาสุดเป็นห้องของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง ซึ่งเคยหารือไปแล้วว่าให้นำไปเป็นห้องของวิปฝ่ายค้าน
“ส่วนห้องอื่นจะเป็นของใคร จะใช้ห้องไหนก็ว่ากันไปตามกรณี เข้าใจดีว่าบางท่านมีข้อจำกัดหรือมีความต้องการที่จะใช้ห้องบางห้อง แต่ตอนนี้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างพรรคการเมือง หรือแม้กระทั่งสส. ด้วยกันเอง เพราะก่อนหน้านี้มีคนมาเจออะไรจะให้ใช้ห้องข้างกันแทนได้ไหม อยากจะตกแต่งอย่างไรให้บอกมา ซึ่งตนได้บอกไปว่าขนาดเล็กใหญ่ไม่สำคัญ สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหาใด ๆ แต่กังวลว่าบรรทัดฐานของสภาฯ แห่งนี้กำลังจะเสียไป เพราะอาจจะไม่ใช่เพียงแค่การให้สิทธิพิเศษกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองเดียว แต่เป็นการให้สิทธิพิเศษกับสส.หนึ่งคน ที่ต้องการมีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองอยู่หลังบัลลังก์ พร้อมผู้ติดตาม จึงต้องมาพูดคุยเพราะเป็นบรรทัดฐานของสภาผู้แทนราษฎรและเป็นเรื่องของผู้แทนราษฎรทั้ง 500 คนที่ต้องมีบรรทัดฐานชัดเจน และยุติธรรมกับทุกฝ่าย” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ใช่เพียงห้องหลังบัลลังก์ ตอนนี้ห้องชั้น 4 ที่เป็นโซนของประธานกรรมาธิการ เข้าใจว่ามีเกิน 35 ห้อง บางห้องถูกมอบให้สมาชิกผู้อาวุโส ซึ่งเรื่องนี้ตนเข้าใจได้ แต่กลับได้ยินมาว่ามีสมาชิกบางท่านไปยึดห้องที่ว่างอยู่ โดยไม่ได้ขออนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตจากประธาน จึงอยากทราบว่าตกลงแล้วสภาฯ แห่งนี้ มีสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์กันได้ด้วยหรือ ใครมาก่อนเปิดห้องว่างไม่มีใครใช้ ก็ไปวางของแล้วยึดเป็นของตัวเอง ส่วนห้องขวามือหลังบัลลังก์ ก็เป็นกรณีการครอบครองปรปักษ์เข้ามาแล้ว พอสลับฝั่งฝ่ายค้าน รัฐบาลก็ไม่ยอมออก กลายเป็นว่าทั้งสองฝั่งกลายเป็นของรัฐบาล ไม่มีห้องที่จะประสานงานกัน จึงประธานและรองประธานทั้ง3 ท่าน ดูแลให้สถานที่แห่งนี้มีความยุติธรรม
ขณะที่นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องหารือการครอบครองห้องอื่น ๆ จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าใช้งานผิดประเภทหรือไม่ และจะกำชับ ไปยังสำนักรักษาความปลอดภัยสถานที่อาคารและสถานที่ ส่วนเรื่องห้องหลังบัลลังก์จบวันนี้แน่นอน ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเลย ถ้าเป็นไปตามที่นายปกรณ์วุฒิ พูด ขอให้จัดเตรียมห้องให้วิปฝ่ายค้านด้วย เพราะห้องหลังบัลลังก์ มีไว้เพื่อการทำงานของวิป ไม่ใช่ของสส.ท่านใดท่านหนึ่ง พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ต้องจบวันนี้จะได้ไม่ต้องหารือเรื่องนี้กันอีก.-316.-สำนักข่าวไทย