รัฐสภา20 ส.ค.-“ปกรณ์วุฒิ” ชี้ ครม.ใหม่ล่าช้า ยิ่งทำงานสภาฯ ชะงัก ยังหวัง “นายกฯ อิ๊งค์” ตอบกระทู้ให้เกียรติตัวแทนประชาชน รอดูสถานการณ์ส่งชื่อชิงรองประธานสภาฯ 1 สานงาน “หมออ๋อง”
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการทำงานในสภาของฝ่ายค้านหลังได้นายกฯคนใหม่ ว่า วาระการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ประธานสภาไม่ได้บรรจุวาระกระทู้ถาม เข้าใจว่าคงไปปรึกษาหารือถึงข้อกฎหมายต่างๆ และอาจจำเป็นต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เข้ามาแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนถึงจะพิจารณาวาระกระทู้ถามได้
ทั้งนี้ หวังว่านายกฯ คนใหม่ มาตอบกระทู้เพราะเห็นว่านายกรัฐมนตรีต้องยึดโยงกับสภาที่เป็นอำนาจในระนาบเดียวกัน นายกฯก็ควรที่จะเข้ามาสภา เพื่อให้สส.ตรวจสอบการทำงานและตั้งคำถามที่สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จึงคาดหวังว่านายกฯ คนใหม่จะเข้ามาต่อกระทู้และให้เกียรติสภา ให้เกียรติตัวแทนของประชาชน
เมื่อถามว่าการที่ยังไม่มีครม.และรองประธานสภาคนที่ 1 จะทำให้งานสภาชะงักหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ถ้ายังไม่มีครม.อาจทำให้งานสภาบางอย่างชะงักลงไปบ้าง แต่บางเรื่องเรายืนยันว่าทำต่อได้ แต่อาจจะมีข้อกังวลเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ว่า ครม.รักษาการ ทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องของทางราชการที่ต้องตรวจสอบความแน่นอนหากบางอย่างไม่ชัดเจนก็คงไม่อยากให้ดำเนินการต่อ
ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ที่ยังว่างอยู่นั้น ตนคิดว่าควรจะมีโดยเร็วเพราะการมีแค่ประธานและรองประธานสภาฯคนที่2 สลับกันทำหน้าที่ในวันที่มีการประชุมยาวนานทั้ง 2 ก็ทำงานหนักเหมือนกัน จึงคิดว่า ต้องมีคนมาช่วยทำหน้าที่และในที่ประชุม และงานที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดาอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำค้างไว้ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อ และรองประธานสภาฯคนที่1 ยังมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องร่างกฎหมายต่างๆด้วย ซึ่งเกี่ยวพันกับการประชุมสภาโดยตรง รวมถึงระบบไอทีของสภาด้วยที่นายปดิพัทธ์ทำไว้ ก็ควรจะมีคนมารับช่วงงานนี้ต่อ
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนเตรียมส่งนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วนก่อน ส่วนแรกคือจะส่งหรือไม่ส่ง เรายังไม่ได้ตัดสินใจ 100% ว่าจะส่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา โดยเฉพาะการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน ตนคิดว่าคงต้องดูจังหวะเวลา ณ ตอนนั้น ว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไรที่จะส่งคนชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง
ส่วนที่ 2 คือจะส่งใคร พรรคประชาชนก็ยังไม่ได้สรุป มีการหยิบยกชื่อในวง สส. ว่ามีชื่อใดบ้างที่มีความเหมาะสม ซึ่งตอนนี้ก็เหลือประมาณ 3-4 ชื่อ ที่หยิบยกขึ้นมาคุยกัน ยังไม่ได้มีความชัดเจนใดๆ
เมื่อถามว่า จะติดข้อกฎหมายหรือไม่ ระหว่างที่จะต้องเลือกผู้นำฝ่ายค้านกับ รองประธานสภาคนที่ 1 เพราะอาจเสียตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งไป นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าสิ่งที่ตนพูดคือการที่จะส่งหรือไม่ส่ง ชิงรองประธานสภาคนที่ 1 ต้องดูจังหวะเวลาว่าในการเสนอผู้นำฝ่ายค้าน ไปถึงไหนแล้ว เพราะ ณ ตอนนี้เอกสารจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่ต้องยืนยันกลับมายังสภาฯ ว่าเราคือสส.พรรคประชาชน กกต.ยังไม่ส่งกลับมา ฉะนั้นขนาดนี้ยังไม่มีอะไรเป็นทางการทั้งสิ้น
ส่วนจะต้องเลือกหรือไม่ระหว่างรองประธานสภาคนที่ 1 กับผู้นำฝ่ายค้าน นั้น เราต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน และถ้า มองย้อนกลับไปในอดีตมีหลายครั้ง ที่มีพรรคชัดเจนด้วยตัวเองอยู่แล้ว ว่ากำลังจะเป็นฝ่ายค้าน และได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านแต่ก็ส่งชื่อแข่งชิงประธานสภา หรือรองประธานสภาด้วย เพื่อแข่งกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติของสภา เพราะมองเห็น ว่าใครที่อาจจะมีความเหมาะสมมากกว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล ส่งรายชื่อมา แม้เราเป็นเสียงส่วนน้อยโหวตไปอย่างไรก็แพ้ ดังนั้นจึงต้องมีจุดยืนบางอย่างที่เราจะต้องยืนยัน โดยเฉพาะสิ่งที่นายปดิพัทธ์ทำไว้ ประชาชนสามารถมองออกได้ว่า ไม่เคยมีรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 คนไหน ใช้อำนาจหน้าที่ เพื่อทำในสิ่งที่นายปดิพัทธ์ทำ จึงมองว่าควรจะสานต่อเพื่อประโยชน์ของสภา.-319.-สำนักข่าวไทย