แบงก์เข้มปล่อยกู้ ฉุดยอดผลิตรถยนต์ ปี 66 หดตัว 2.22%

กรุงเทพฯ 29 ม.ค.- ปี 2566 ยอดผลิตรถยนต์หลุดเป้าเหตุแบงก์เข้มอนุมัติปล่อยกู้ โดยทั้งปีผลิตได้ 1,841,663 คัน หดตัว 2.22% ขณะที่มีรถ EV จดทะเบียนใหม่พุ่ง 381.77% ส.อ.ท.ตั้งเป้าปี 67 ผลิตรถยนต์ 1,900,000 คัน 


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.  เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในปี 2566 (มกราคม – ธันวาคม) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,841,663 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว ร้อยละ 2.22  โดยเฉพาะเดือนธันวาคม 2566 ผลิตรถยนต์ได้จำนวน 133,621 คัน ซึ่งลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ร้อยละ 15.75 จากการผลิตขายในประเทศลดลงถึงร้อยละ 29.94 โดยเฉพาะรถกระบะที่ผลิตลดลงถึงร้อยละ 41.30 ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะเพราะหนี้ครัวเรือนสูงถึงร้อยละ 90.6 ของ GDP เศรษฐกิจชะลอตัวลงจากผลผลิตอุตสาหกรรมที่ลดลงตามการส่งออกที่ลดลง โรงงานจึงลดกะทำงานและลดทำงานล่วงเวลา คนงานขาดรายได้ ประกอบกับค่าครองชีพและอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้เหลือเงินไม่เพียงพอในการใช้จ่ายอย่างอื่นได้ 

นอกจากนี้การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐก็ยังต้องรองบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ล่าช้าออกไปอีกหลายเดือน รวมถึงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาขายในประเทศ โดยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าถึง 75,690 คัน ทำให้ผลิตรถยนต์นั่งลดลงร้อยละ 16.24 แต่การผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกปี 2566 กลับเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.44 ตามยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.30 และสูงกว่าส่งออกปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด 19 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 18.19 เนื่องจากวันทำงานน้อยกว่า


อย่างไรก็ตามกลับพบว่า ตัวเลขส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งปี 2566  อยู่ที่ 1,117,539 คัน สูงกว่าปี2562 ที่เกิดการระบาดของโรคโควิด – 19 ปี  และเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 5 ปี เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.73 ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ยังมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นในทุกตลาด ยกเว้นตลาดแอฟริกาที่ลดลง 

ขณะที่ทั้งปีมียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  100,214 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 381.77  ส่วนเฉพาะเดือนธันวาคม มีจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,187 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 317.43 

สำหรับปี 2567  กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.  ตั้งเป้าผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 1,900,000 คัน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.17  เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะซึ่งขนส่งสินค้าและคน เพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่าหนึ่งร้อยประเทศ จึงไม่ได้รับผลกระทบมากจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประเทศจีนเปิดประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้การค้าโลกและการท่องเที่ยวเติบโต จึงเป็นปัจจับวกต่อการส่งออกของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ปัยหาการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายลงมาก ส่งผลให้การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น การลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย  คำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้า สหรัฐฯ, ยุโรป, จีน เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพ เช่น กลุ่มอ่าวอาหรับ GCC 


และอัตราดอกเบี้ยอาจอยู่ในช่วงขาลงทำให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีปัจจับลบ เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและการเพิ่มขึ้นใหม่ซึ่งจะ ส่งผลต่อการส่งออกลดลงและเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น  ตลาดทั้งในและต่างประเทศเกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และคู่แข่งเกิดขึ้นในภูมิภาคเพิ่มขึ้น  นโยบายของประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก เช่น การขึ้นภาษีสรรพสามิตในรถยนต์บางประเภทในลาว 

ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 9.39 หรือผลิตได้ 750,000 คัน จากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไทย ทำให้เกิดการเชื่อมโยง Supply Chain ของอุตสาหกรรม   ความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นทั่วโลกจากกฎระเบียบและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เริ่มมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ขระเดียวกัน หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ ค่าครองชีพ อัตราดอกเบี้ย ที่พาเหรดสุงขึ้นส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชนลดลง ทำให้ยอดขายอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งมีsupply chain หลายอุตสาหกรรมชะลอตัวลง

ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้รายได้คนงานก่อสร้างและโรงงานลดลง งบประมาณรายจ่ายประจำปี2567 ล่าช้าออกไปราวแปดเดือนทำให้การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไปด้วย ส่งผลให้การลงทุนการจ้างงานของเอกชนล่าช้าออกไป เศรษฐกิจจึงเติบโตในระดับต่ำ ความขัดแยังระหว่างประเทศอาจขยายตัวและเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่จะส่งผลให้ราคาพลังงาน สินค้า และวัตถุดิบสูงขึ้น และการส่งออกสินค้าต่างๆ ในปีนี่อาจลดลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงส่งผลการผลิตการลงทุนการจ้างงานลดลง อำนาจซื้อลดลง.-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ