กทม. 18 ม.ค.-ก.คมนาคม และกรมทางหลวง ชี้เหตุลวดสลิงรถเครนยกกระเช้าขาด เกิดจากความประมาทของหนุ่มวิศวะ-คนขับรถเครน สั่งหยุดดำเนินการ 3 วัน เร่งสรุปสาเหตุและตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมด
นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเกิดเหตุ ลวดสลิงรถเครนยกกระเช้าขาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ภายในไซต์งานก่อสร้างทางยกระดับมอเตอร์เวย์ เอ็ม 82 บริเวณปากซอยพระรามสอง 72 ถนนพระรามสอง-ขาเข้า แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
นายกฤชนนท์ เผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นช่างวิศวะจากสำนักงานใหญ่ทั้ง 2 คน เพื่อมาเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นโช๊คไฮโดรลิคโช๊คคานเหล็กยก segment โดยใช้รถเครนขนาดใหญ่ยกกระเช้าแบบลูกรอกลำเลียงน้ำมันและคนขึ้นไป แต่ในระหว่างที่คอเครนกำลังจะหยืดสุด ผู้ขับรถเครนไม่ได้ปลดล็อคและฝืนเร่งเครื่อง ทำให้ระบบขัดข้องจนเกิดการกระตุกลวดสลิง จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะวิธีขั้นตอนการลำเลียงขนของในช่วงเกิดเหตุ ส่วนอุปกรณ์และสภาพของรถเครนนั้น ถือว่าไม่ใช่เป็นสิ่งของใหม่และเก่า ยังต้องตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม วิศวะทั้งสองคนมีประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุกับทางบริษัทรถเครน ซึ่งทางต้นสังกัดต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน นายสราวุธ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า โดยปกติอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่อย่างกรณีนี้จะต้องนำมาเป็นบทเรียน โดยเฉพาะการใช้รถเครนยกกระเช้าด้วยลวดสลิง เพราะโดยปกติแล้ว การที่จะใช้กระเช้าลำเลียงคน จะต้องเป็นรถเครนที่มีกระเช้าติดอยู่ในตัว ไม่ใช่ใช้ลูกรอกยกกระเช้าขึ้นไป แต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายผิดในเรื่องข้อกฎหมาย แต่ทางกรมทางหลวงจะมีการคาดโทษ โดยการให้หยุดดำเนินการก่อสร้างและเสียค่าปรับ ซึ่งจะเป็นผลเสียของผู้รับเหมาก่อสร้างหรือผู้รับผิดชอบใช้งาน
ส่วนเรื่องอุปกรณ์เซฟตี้นั้น จากที่ได้รับรายงาน ช่างวิศวะทั้งสองไม่ได้มีการใช้อุปกรณ์เซฟตี้ในการขึ้นกระเช้า เป็นการทำงานที่ประมาททั้งวิศวะและคนขับรถเครน การทำงานในไซต์งานก่อสร้าง ระดับนี้ ทุกอย่างจะต้องเพียบพร้อม โดยเฉพาะการไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในขณะระหว่างทำงาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะส่งผลต่อบุคคลทำงานและประชาชนที่สัญจรอยู่ในถนนทางหลวง
จากเหตุการณ์นี้ ทางกรมทางหลวงได้สั่ง ให้บริษัทดังกล่าวจุดดำเนินการเป็นเวลา 3 วัน เพื่อตรวจสอบสาเหตุดังกล่าว และตรวจเช็คอุปกรณ์ทั้งหมด ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ก่อนจะอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างได้อีกครั้งหนึ่ง.-415.-สำนักข่าวไทย