ทำเนียบฯ 10 ม.ค.- นายกฯ ย้ำไม่มีอำนาจแทรกแซงแบงก์ชาติ พร้อมถกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ในเวทีประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่ ระบุไม่ตกลงเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นการหารือสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม และได้หารือร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่า เรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายหรือสั่งการทำงานของ ธปท. เพราะเป็นองค์กรอิสระในการดูแลนโยบายการเงิน เป็นการพูดคุยเหตุการณ์ในต่างประเทศ สถานการณ์เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 2-3 เดือน ส่วนความชัดเจนต้องให้ ธปท.แถลงรายละเอียด ส่วนผลการหารือมีแนวโน้มที่ดี แล้วแต่ใครคิดว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของแต่และฝ่าย เพราะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ไม่ได้โน้มน้าวผู้ว่าฯ ธปท. เกี่ยวกับความเห็นเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เพราะต้องการหารือในคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ขณะนี้เลขานุการกำลังนัดประชุม เพื่อให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นอย่างเปิดเผย ไม่อยากให้พูดคุยกันในที่มืด หวั่นมีข้อครหา และไม่ได้หารือ ไม่มีการตกลงกัน “เศรษฐกิจวิกฤติ” หรือไม่วิกฤติ เพราะหารือภาพเศรษฐกิจโดยรวม และพร้อมทานกาแฟร่วมกันทุกสัปดาห์ หากผู้ว่าฯ ธปท.นัดมา และพร้อมไปเยี่ยมที่แบงก์ชาติ บางขุนพรหม
“กรณีเงินเฟ้อติดลบติดต่อกันหลายเดือน เนื่องจากรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ต้นทุนค่าไฟฟ้า เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ทำให้ราคาสินค้าลดลงและเงินเฟ้อติดลบ พร้อมกลับไปดูโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับด้วยกันได้ หากตัดเรื่องพลังงาน เงินเฟ้ออาจไม่ติดลบ หรืออยู่ประมาณร้อยละ 0.1-0.2 พร้อมทบทวนนโยบายพลังงานให้เหมาะสม เรื่องนี้ได้หารือกับแบงก์ชาติ สาเหตุเงินเฟ้อติดลบ เพราะรัฐมนตรีอุดหนุนต้นทุนพลังงาน“ นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.ล.ต. ดูแลนักลงทุน หลังจากขณะนี้มีปัญหาหุ้นกู้ของภาคเอกชนหลายราย เบี้ยวหนี้หรือขอเลื่อนชำระหนี้ออกไปก่อน หลังจากครบกำหนดชำระหนี้ เนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้มีสภาพคล่องไม่เพียงพอ นายกรัฐมนตรีพร้อมสอบถามความคืบหน้าและแจ้งให้ทราบ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตือนนักลงทุน โดยเฉพาะหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่มีความเสี่ยงสูง (Low Investment Grade) จึงต้องดูแลนักลงทุนอย่างไร รวมถึงเร่งรัดสำนักงาน คปภ. ดูแลประชาชน ยื่นเคลมประกันภัยโควิด-19 จนขณะนี้หลายรายยังไม่ได้รับเงินเคลม เพื่อดูแลประชาชนที่เผชิญปัญหาในช่วงดังกล่าว
สำหรับการหารือกับผู้บริหารแอร์เอเชีย มาเลเซีย แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางบริการทางการบิน เพราะมั่นใจกับแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวและการบิน พร้อมสั่งซื้อเครื่องบิน 200 ลำ เพิ่มเติม นับว่ามีแนวโน้มที่ดีต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย.-515-สำนักข่าวไทย