ศาลสั่งจำคุก “ต่อ เรืองฤทธิ์” เมาแล้วขับ รอลงอาญา 2 ปี

กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – จำคุก “ต่อ เรืองฤทธิ์” เมาแล้วขับ รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 2 เดือน ปรับ 4,000 รอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 4 เดือนครั้ง กรอบ 1 ปี ทำกิจกรรมบริการสังคม 12 ชั่วโมง ริบใบขับขี่ 6 เดือน


เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.66 ที่ศาลอาญามีนบุรี ศาลอ่านคำพิพากษา ในคดีเเขวงที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเรืองฤทธิ์ วิสมล หรือ “ต่อ” อายุ 49 ปี ดารานักแสดงชื่อดัง ฐานความผิดขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น

ฟ้องจำเลย ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เวลากลางคืน จำเลย ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ ได้ขับรถยนต์ไปตามถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน อันเป็นทางสาธารณะ ในขณะอยู่ในอาการเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น โดยวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของจำเลยได้ 235 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานจับกุมตัวจำเลยได้ นำส่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพ ระหว่างสอบสวนจำเลยไม่ได้ถูกควบคุมตัว จึงได้ส่งตัวจำเลยมาศาลพร้อมฟ้อง โดยขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ขอศาลพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ด้วย


จำเลยแถลงไม่ต้องการทนายความ และให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ให้คุมประพฤติจำเลย โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนครั้ง มีกำหนด 1 ปี กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควร เป็นเวลา 12 ชั่วโมง หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 และพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 6 เดือน และแจ้งให้นายทะเบียนทราบ.-413-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก