ศาลฎีกา 21 ก.ค.- กลุ่มประชาชนทยอยเดินทางให้กำลังใจไต่สวนคดีจำนำข้าว นัดสุดท้าย ท่ามกลางการจับตาของเจ้าหน้าที่ “ยิ่งลักษณ์” น้ำตาไหลขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันนี้ (21 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลย นัดสุดท้าย ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ที่มีการทุจริตจนรัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท จำนวน 3 ปาก เป็นอดีตข้าราชการ และนักวิชาการ
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา แกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายสิบคน อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการ, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมาย, นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.ศึกษาธิการ และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รวมถึง กลุ่มผู้สนับสนุน ทยอยเดินทางมาที่บริเวณหน้าศาลฎีกา เพื่อมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ท่ามกลางการจับตาของหน่วยงานด้านความมั่นคง และมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาดูแลความปลอดภัยบริเวณโดยรอบเหมือนเช่นทุกครั้ง
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อย กล่าวว่า วันนี้ ได้จัดกำลังตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2, ตำรวจควบคุมฝูงชน, กองร้อยน้ำหวาน และตำรวจท้องที่ มาคอยดูแลความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย จำนวน 280 นาย ยืนยันว่า จะอำนวยความสะดวกให้กับมวลชน และจะคอยดูแลความเรียบร้อยป้องกันมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์
“พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของศาล การทำกิจกรรมอะไร ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงฝากเตือนให้ระมัดระวังเรื่องการแสดงออก และเบื้องต้นได้พูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยของมวลชนแล้ว เชื่อว่า มวลชนที่เดินทางมาวันนี้ จะไม่สร้างปัญหา” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว และว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาถึง ได้พบปะกับกลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังใจ พร้อมมอบดอกกุหลาบแดง รวงข้าว ของฝากจากจังหวัดต่างๆ โดยประชาชนได้สวมกอด และตะโกนคำว่า “ยิ่งลักษณ์สู้ๆ” และ “รักยิ่งลักษณ์” ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถึงกับน้ำตาไหล
อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพียงแต่กล่าวขอบคุณสื่อมวลชน และกลุ่มประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมระบุว่า จากขอแถลงปิดคดีต่อศาล
ทั้งนี้ นอกจากการไต่สวนแล้ว ต้องติดตามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขอแถลงปิดคดีหรือไม่ รวมทั้ง ศาลจะมีคำสั่งในคำร้องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้องขอศาลฎีกา ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 ขัดหรือแย้งกับมาตรา 235 วรรค 6 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 หรือไม่ หลังโจทก์อาศัยช่องทางตามกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพิ่มเติมพยานหลักฐานใหม่โดยเฉพาะพยานเอกสารเกือบ 70,000 แผ่นเข้ามาในคดี ทั้งที่ไม่อยู่ในสำนวนของ ป.ป.ช. ขณะที่ รัฐธรรมนูญที่เพิ่งประกาศใช้บัญญัติว่า “การพิจารณาของศาลฎีกาฯ ให้นำสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. เป็นหลักในการพิจารณา” และกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า “เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้ศาลมีอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้” .- สำนักข่าวไทย