ผามออีแดง 16 ธ.ค. – “สุทิน” ชี้ มานั่ง รมว.กห. ไม่อวยทหาร ทำตามเนื้องาน ตัดสินใจบนประโยชน์ที่ทหารรับได้ ส่วนเรือดำน้ำ ถ้า อสส. บอกไม่ได้ ก็ต้องเอาอย่างอื่นแทน ดีกว่าเสียเงินเปล่า เผยหลังปีใหม่ ออกระบบจัดซื้ออาวุธใหม่
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เปิดใจถึงการมานั่งเป็นเป็น รมว.กลาโหม ว่าอาจถูกมองว่าอวยทหารมากจนเกินไป ซึ่งตนยืนยันว่า ตนทำตามเนื้องาน ตนเป็นผู้บังคับบัญชา ที่ตัดสินใจบนประโยชน์ หากสถานการณ์เข้มก็ต้องเข้ม ถ้าสถานการณ์ไม่เข้มก็ไม่จำเป็นต้องทำ แต่ถึงเวลาที่ตัดสินใจเรื่องสำคัญก็ต้องตัดสินใจ และไม่หนักใจเพราะทหารมีวินัยอยู่แล้ว ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา หากตัดสินใจเรื่องใดที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพทหาร ก็เห็นด้วยอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องบลัฟหรือขึงขังใส่ทหาร เพราะไม่จำเป็นต้องทำก็ไม่ต้องทำ ถ้าเปรียบแล้วก็คือเป็นนักมวยต่อยตามแผน ไม่ใช่ต่อยตามเสียงเชียร์
“ผมก็ไม่ได้ใจดีกับทหาร บางครั้งก็ขัดใจเขา อย่างเช่นเรือดำน้ำ ก็ไม่ได้เอากับเขา อย่างนี้เรื่องใหญ่ด้วย ซึ่งก็มีอีกหลายเรื่องที่มันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แต่ถ้ามันใช่แล้วไปบอกว่าไม่ใช่ หวังไปโชว์ฟอร์มเฉย ๆ ไม่มีประโยชน์” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าหลายภาคส่วนต้องการเรือดำน้ำ ซึ่งตนก็เห็นความจำเป็น ไม่ใช่ว่าไม่ให้ แต่พอดีมีปัญหา เราก็กลัวเสียดายเงินทิ้งเปล่า เอาอะไรมาแทนดีกว่าเอาเงินไปทิ้งเปล่า ซึ่งถ้าอัยการสูงสุก (อสส.) ตีความออกมาว่ายังเอาเรือดำน้ำได้ เราก็เอาให้เขา แต่ถ้าไม่ได้โดยกฎหมาย สเปคไม่ได้ คุณภาพไม่ดี เราก็อาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น และทดแทนให้เขา
เมื่อถามว่างบประมาณการจัดซื้ออาวุธปี 2567 นั้น นายสุทิน กล่าวว่า การจัดซื้ออาวุธทุกรายการ ได้มีการพูดคุยกับเหล่าทัพแล้ว ว่าต้องเสนอเข้าสู่คณะกรรมการคุณธรรม ซึ่งจะดูว่าซื้อตามความจำเป็นหรือไม่ ใช้ประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะดูตั้งแต่ต้นจน สังคมจะได้สบายใจ ว่าการซื้อจำเป็นและคุ้มค่าหรือไม่ ใช้ได้จริงหรือไม่ มีการผูกขาดหรือล็อกสเปกหรือไม่ ซึ่งเหล่าทัพก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้
โดยเฉพาะกองทัพอากาศ ที่มีการจัดซื้อหลายรายการ ก็ยินดีทำตามกฎ ซึ่งหลังปีใหม่จะมีระบบในการจัดซื้อจัดหาอาวุธออกมารองรับ ซึ่งสังคมฟังแล้วจะสบายใจ แต่อย่าบอกว่ามาตรการที่ออกมารัฐมนตรีใจร้ายกับกองทัพ ส่วนมาตรการจะเป็นอะไรให้รอฟังหลังปีใหม่ แทนที่ต่างคนต่างซื้อ ก็อาจจะซื้อเป็นแพ็กเกจทั้ง 4 เหล่าทัพ ซึ่งต้องไปหารือในสภากลาโหมก่อน .- 313 -สำนักข่าวไทย