เชียงใหม่ 29 พ.ย. – สารเร่งลำไยระเบิด เสียชีวติเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 3 ราย ด้านรองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเตือนเกษตรกรที่ใช้สารเร่งผลผลิตลำไยนอกฤดู หากผสมแล้วควรนำไปใช้ทันที ไม่ควรนำมาเก็บหรือกองรวมกัน
ความคืบหน้าสารเคมีทางการเกษตรระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ล่าสุดเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 3 ราย ส่วนสาเหตุเกิดจากการผสมสารเคมีเร่งผลผลิตลำไยนอกฤดู ขณะใช้ความร้อนซีนปิดปากถุง ทำให้เกิดการระเบิด
ช่วงเย็นวานนี้ (28 พ.ย.) เกิดเหตุระเบิดในบ้านซึ่งอยู่ในสวนลำไย พื้นที่บ้านไชยงาม หมู่ 9 ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทำให้บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง มีไฟลุกไหม้ รถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำรถน้ำดับเพลิงเข้าฉีดน้ำดับไฟ และนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอำเภอพร้าว
จุดเกิดเหตุเป็นบ้านในสวนลำไย ห่างจากชุมชนประมาณ 500 เมตร ก่อนเกิดเหตุ น้องสาวเจ้าของสวนลำไยดังกล่าวได้มาดูคนงานชายหญิงกำลังบรรจุสารโพแทสเซียมคลอเรต บรรจุใส่ถุงละ 1 กิโลกรัม เพื่อนำไปใส่สวนลำไย แต่เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 คน ศพกระเด็นลอยไปค้างบนกิ่งต้นลำไย และมีแรงงานชายชาวต่างด้าวได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุและหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
ในช่วงค่ำ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ล่าสุดเสียชีวิตเพิ่มเป็นรายที่ 3 ส่วนสาเหตุพบว่ามีการนำสารโพรแทสเซียม จำนวน 3 กระสอบ น้ำหนัก 150 กิโลกรัม นำมาผสมกับสารยูเรีย 1 กระสอบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสูตรในการผลิตลำไยนอกฤดู ระหว่างที่บรรจุสารเคมีใส่ถุงขนาด 1 กิโลกรัม และปิดปากถุง ก็เกิดความร้อน ทำให้เป็นต้นเหตุของระเบิด
หลังจากนี้จะแจ้งเตือนไปยังเกษตรกรที่ใช้สารเร่งผลผลิตลำไยนอกฤดู หากมีการผสมควรนำไปใช้ทันที ไม่นำมาเก็บ หรือกองรวมกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุโพแทสเซียมคอลเรตระเบิด เพราะเมื่อปี 2542 เกิดระเบิดในโรงงานอบลำไย ที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 45 คน บาดเจ็บกว่าร้อยคน และบ้านเรือนเสียหายหลายร้อยหลัง.-สำนักข่าวไทย