กรุงเทพฯ 28 พ.ย.- นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอให้รัฐบาลเดินหน้าปราบปราม “หมูเถื่อน” ถึงต้นตอ อย่าให้คดีสะดุด จากการที่ ครม. มีมติโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอ ขณะที่ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือสงสัยเหตุผลในการย้ายเนื่องจากถูกโยกย้ายหลังจากเข้าตรวจค้น “แม็คโคร” จึงสงสัยว่า เป็นเพราะสืบสวนไปจนเจอตอหรือไม่
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้าและค้า “หมูเถื่อน” อย่างจริงจังต่อไป แม้ว่าจะมีการโยกย้ายพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยยังไม่ทราบว่า จะมีใครมาเป็นอธิบดีแทน
ทั้งนี้ทราบเพียงว่า ดีเอสไอส่งส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษในส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองและข้าราชการไปยังเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการแล้ว แต่คดีที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดอื่นๆ ไม่ทราบว่า ดำเนินการถึงไหน แต่มั่นใจว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะกำกับดูแลไม่ให้คดีสะดุด
สำหรับการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจ “พญานาคราช” ซึ่งมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนทุกชนิดนั้น กำลังติดตามแนวทางการทำงาน โดยหากมีการเอกซเรย์ห้องเย็นทั่วประเทศตามที่มีการแถลงไปก่อนหน้านี้ ก็เชื่อว่า จะช่วยป้องปรามการลักลอบเคลื่อนย้าย “หมูเถื่อน” ได้
นายเดือนเด่น ยิ้มแย้ม ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวว่า มีเหตุให้สงสัยเกี่ยวกับการโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอว่า สืบสวนสอบสวนไปเจอตอหรือไม่ อีกทั้งเป็นการโยกย้ายด่วน หลังจากที่อธิบดีดีเอสไอนำกำลังเข้าตรวจค้น “แม็คโคร” หลังพบมีเอกสารเกี่ยวข้องกับบริษัทนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้
ส่วนจะเป็นการถูกโยกย้ายจะมีสาเหตุจากทำงานช้า จนกระทั่งถูกนายกรัฐมนตรีตำหนิหรือไม่นั้น นายเดือนเด่นมองว่า อาจเป็นเพราะคดีมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ต้องสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจน โดยเชื่อว่า อธิบดีดีเอสไอเป็นคนทุ่มเท ทำให้วานนี้นำกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรไปให้กำลังใจ แต่วันนี้ถูกโยกย้ายเสียแล้ว
ทั้งนี้ไม่ว่า ใครจะมาเป็นอธิบดีแทน แต่ขอให้รัฐบาลดูแลอย่าให้คดี “หมูเถื่อน” สะดุด โดยให้ขุดรากถอนโคนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อปกป้องอาชีพเกษตรกร คุ้มครองผู้บริโภค และรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศ.- 512 – สำนักข่าวไทย