fbpx

5 รัฐมนตรีหญิง รณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรง

ทำเนียบ  22 พ.ย.- 5 รัฐมนตรีหญิง รณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ขณะที่ พม.​ เตรียมจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว 25 พ.ย.นี้


นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตามที่องค์การสหประชาชาติได้รับรองให้วันที่ 25 พ.ย.ของทุกปีเป็น “วันขจัดความรุนแรง ต่อสตรีสากล” สำหรับประเทศไทยได้กำหนดให้เดือน พ.ย.​ เป็น “เดือนรณรงค์ ยุติความรุนแรงต่อ เด็ก สตรี และคนในครอบครัว” โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เตรียมจัดแคมเปญรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2566 ตลอดทั้งสัปดาห์  โดยวานนี้ (21 พ.ย.) ติดเข็มกลัดริบบิ้นขาวให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีก่อนเริ่มการประชุม​ ครม.​ ไปจนถึงการจัดงานในวันที่ 25 พ.ย.66 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ภายใต้แนวคิด “รวมพลังหยุดความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว” เพื่อให้สังคมได้ตระหนักและร่วมป้องกันและขจัดความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ให้หมดสิ้นไป

นางรัดเกล้า​ ยังเผยอีกว่า​กระทรวง พม.​​ ยังจับมือกับทีมโฆษกรัฐบาล​ เดินหน้ารวบรวมจุดยืนและนโยบายของรัฐมนตรีผู้หญิง 5 คน ที่ออกมาร่วมกันต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรีอีกด้วย​ โดยจะเผยแพร่คลิปวิดีโอให้สาธารณะได้ชมกันในวันที่ 25 พ.ย.66  ประกอบด้วย​ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พูดถึงแนวทางการป้องกันการใช้ความรุนแรงในการทำงาน สถานประกอบการ โรงงาน ที่บุคลากรในสถานที่ทํางานอาจถูกคุกคาม ถูกข่มเหงหรือ ถูกทําร้าย ,นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พูดถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา


นางมนพร เจริญศรี  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องปัญหาความปลอดภัยทางเพศในการเดินทางขนส่งสาธารณะ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รณรงค์ยุติความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในหลายรูปแบบ และประเด็นสื่อกับความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

“ไม่ใช่เพียงรัฐมนตรีผู้หญิงที่ร่วมกันรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในทุกรูปแบบ แต่ทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก โดยเมื่อวานนี้ก่อนการประชุม ครม.ได้จัดกิจกรรม ติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวให้กับรัฐมนตรีทุกคน โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความความชื่นมื่น เป็นการตอกย้ำว่าเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้” นางรัดเกล้า กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย