ป.ป.ส. ประกาศ 3 จังหวัดควบคุมพิเศษสกัดนำเข้ายาเสพติด

19 พ.ย. – ป.ป.ส. ประกาศ 3 จังหวัด พื้นที่ควบคุมพิเศษ สกัดยาบ้าทะลักเกินล้านเม็ดขึ้นไป เริ่มคิกออฟ 1 ธ.ค.นี้ พร้อมคัดกรองกลุ่มเสพยาจนป่วยจิตเวชรุนแรงอยู่ร่วมสังคมไม่ได้ 7,000 คน เข้ารักษาเต็มรูปแบบ ตั้งเป้า 1 ปี ยาเสพติดลด ชุมชนปลอดภัย


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงแผนการควบคุมแก้ปัญหายาเสพติดเร่งด่วน ใน 1 ปี ซึ่งพบว่าพื้นที่ที่มีสัดส่วนการลักลอบนำเข้ายาบ้า ในระดับ 1 ล้านเม็ดขึ้นไป อยู่ที่แนวตะเข็บชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และนครพนม มีจำนวนคดีและปริมาณยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาใกล้เคียงกัน ที่ ชายแดนภาคเหนือ 57.67 เปอร์เซ็นต์ และ ชายแดนจังหวัดนครพนม 42.33 เปอร์เซ็นต์

โดย ป.ป.ส. จะบังคับตามกฎหมายยาเสพติด มาตรา 5 (10) กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กำหนดกลไก โครงสร้าง เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งจัดสรรงบประมาณ ทรัพยากรที่เหมาะกับสภาพปัญหา ให้ทหาร เป็น Single Command เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ตั้งเป็นหน่วยใหม่ในชื่อ “หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น เคมีภัณฑ์ พื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย 5 อำเภอ คือ อ.แม่อาย อ.ฝาง อ.เชียงดาว อ.เวียงแหง อ.ไชยปราการ จังหวัดเชียงราย 6 อำเภอ คือ อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น และจังหวัดนครพนม 4 อำเภอ คือ อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม อ.ธาตุพนม และ อ.บ้านแพง พบด้วยว่าแนวชายแดนใน 3 จังหวัด ดังกล่าว มีชนเผ่าจัดตั้ง เป็นหูเป็นตาให้กับขบวนการค้ายาเสพติด จึงต้องสร้างชุมชนเข้มแข็งของฝั่งไทย เพื่อขับดัน ปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติด


ส่วนแผนการแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนเมือง เลขาธิการป.ป.ส. กล่าวว่า ปัจจุบันพบตัวเลขผู้มีอาการทางจิตเวชจากยาเสพติดทั้งหมด 32,623 คน แบ่งเป็นกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด 1,963 คน กลุ่มเฝ้าระวังสูง 5,024 คน และกลุ่มเฝ้าระวังทั่วไป 25,636 คน ป.ป.ส. และ สธ. จะนำผู้ป่วยกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุดและกลุ่มเฝ้าระวังสูง ประมาณ 7,000 คน ใน 502 อำเภอ มากสุดที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่การบำบัดรักษาอย่างเต็มรูปแบบ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะตั้ง มินิธัญรักษ์ ในทุกจังหวัด โดยให้ตำรวจคัดกรองพาตัวผู้เสพที่ป่วยจิตเวชรุนแรงออกจากชุมชนไปรักษาจนกว่าจะหายขาด โดยโครงการทั้ง 2 ส่วนจะเริ่มคิกออฟในวันที่ 1 ธันวาคม ตั้งเป้า 1 ปี สกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดเข้าไทย สร้างชุมชนเข้มแข็งทั้งแนวชายแดน และในชุมชนเมือง ลดความรุนแรงของผู้ป่วยจิตเวช จากการเสพยาเสพติด นอกจากนี้จะเปิดยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยที่สำรวจพบมีมากกว่า 530,000 คน เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง