ทำเนียบ 15 พ.ย.-อ.ยุทธพร รับหนักใจ กฎหมายประชามติ เงื่อนไขผ่านยาก เล็งปลดล็อกให้ง่ายขึ้น
นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กล่าวถึงแนวทางการทำประชามติว่า เรื่องการทำประชามติอย่างน้อยในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบให้ทำ 2 ครั้ง ซึ่งการทำประชามติต้องพิจารณาทั้งในแง่กฎหมายและประเด็นทางการเมือง รวมทั้งต้องให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย ส่วนตัวคิดว่าจะต้องทำประชามติ 2-3 ครั้ง จึงจะสามารถทำให้ประชามติเป็นเครื่องมือที่สำคัญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นทั้งสองส่วน คือ สมดุลในเรื่องของความเป็นไปได้ และสมดุลเรื่องความลงตัว ซึ่งเนื้อหารัฐธรรมนูญจะต้องเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย สามารถยืนอยู่ได้ในระยะยาว
ส่วนองค์กรผู้ร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ตกผลึกร่วมกันแล้วว่าจะต้องเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ส่วนที่มาของ ส.ส.ร.จะต้องหารือกันในรายละเอียด เมื่อตั้ง ส.ส.ร.ลงตัวแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการประชามติเลยหรือไม่ หรือต้องกลับไปที่รัฐสภาอีก ต้องไปดูเชิงเทคนิคของกฎหมายมหาชน ขณะที่กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมให้กับประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายในการมารับฟังความคิดเห็น เหล่านี้จะทำให้เกิดความลงตัวในเรื่องของเนื้อหา
“ตอนนี้ที่หนักใจคือเรื่องของการทำประชามติ เพราะมีกฎหมายประชามติเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องใช้เสียงข้างมากสองชั้น ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดเรื่องของการรณรงค์ให้มีการโนโหวต นั่นคือ การให้อยู่บ้าน ไม่ออกมาใช้สิทธิ์ ทำให้เสียงประชามติไม่ถึงกึ่งหนึ่ง และตกม้าตายไปตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ถ้าเสียงขั้นตอนแรกเกินกึ่งหนึ่ง ขั้นตอนที่สองก็เกินกึ่งหนึ่งอีก กระบวนการทำประชามติก็จะได้รับความเห็นชอบต่อไป” นายยุทธพร กล่าว
ส่วนจะต้องแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 ก่อนใช่หรือไม่ นายยุทธพร กล่าวว่า มีโอกาสที่จะต้องทำอย่างนั้น เพื่อที่จะทำให้โอกาสของการทำประชามติเป็นไปได้.-สำนักข่าวไทย