นิวยอร์ก 13 ก.ค. – ผลการศึกษาพบว่า ปรากฎการณ์คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนอาจส่งผลให้หนึ่งในสามของจำนวนเครื่องบินทั่วโลกไม่สามารถขึ้นบินได้ในช่วงวันที่มีอากาศร้อนได้ในทศวรรษข้างหน้า
นักวิจัยชาวสหรัฐเผยผลศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ผ่านวารสารการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระบุว่า สายการบินอาจต้องหันไปใช้วิธีปรับลดจำนวนผู้โดยสาร ปริมาณสินค้า และปริมาณน้ำมันในแต่ละเที่ยวบิน เพื่อให้สามารถนำเครื่องขึ้นบินได้อย่างปลอดภัย เพราะสภาพอากาศร้อนส่งผลให้ปีกเครื่องบินแบกรับน้ำหนักได้น้อยลง
นักวิจัยคาดว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นราว 3 องศาเซลเซียสภายในปี 2643 ขณะที่อุณหภูมิประจำวันสูงสุดตามสนามบินในแต่ละปีอาจจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 4-8 องศาเซลเซียสภายในปี 2623 ส่งผลให้มีเที่ยวบินเกิดความล่าช้าหรือถึงขั้นต้องยกเลิกการให้บริการเพิ่มขึ้น อีกทั้ง เครื่องบินอาจต้องลดน้ำหนักจากการบรรทุกผู้โดยสารและสิ่งของบนเครื่องลงร้อยละ 10-30 เพื่อให้สามารถทำการบินได้ในช่วงอากาศร้อนที่สุดระหว่างวัน ยกตัวอย่างเช่น เครื่องบินขนาด 160 ที่นั่งอาจต้องลดจำนวนผู้โดยสารบนเครื่องลง 13 คน เพื่อให้ขึ้นบินได้อย่างปลอดภัย
นักวิจัยกล่าวว่า ปรากฎการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบด้านผลกำไรและต้นทุนของอุตสาหกรรมการบินทั้งระบบ รวมถึงอาจจะกระทบไปถึงภาคส่วนอื่นๆ ในระบบเศรษฐกิจด้วย.- สำนักข่าวไทย