นักวิชาการเตือนปม 2 สส.ส่อปัญหาในพรรค

กรุงเทพฯ 2 พ.ย.-นักวิชาการชี้มติก้าวไกล ไม่ส่งผลสมาชิกภาพสส.ถ้าหาพรรคใหม่ได้ใน 30 วัน ส่วนกรณี “สส.ปูอัด” จะมีผลเมื่อคดีอาญาถึงที่สุด เชื่อไม่กระทบฐานเสียง แต่อาจมีปัญหาภายใน กระทบถึงตั้งหัวหน้าใหม่


นายยุทธพร อิสรชัย อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” เกี่ยวกับผลทางกฎหมายหลังพรรคก้าวไกลมีมติขับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี และตัดสิทธิ์พึงมี นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือสส.ปูอัดสส.กทม.ว่า สส.ทั้งสองคนอาจจะมีผลต่างกัน โดยในส่วนของนายวุฒิพงศ์ ที่พรรคก้าวไกลมีมติขับออกจากพรรคจะต้องหาพรรคใหม่ภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นจะขาดสมาชิกภาพความเป็นสส. ส่วนนายไชยามพวานนั้น มติพรรคไม่ถึงเกณฑ์ที่จะขับ แต่คาดโทษห้ามทำกิจกรรมหรือดำรงตำแหน่งต่าง ๆ หรือตัดสิทธิประโยชน์ แต่ในแง่ของการเป็นสมาชิกภาพส.สยังคงมีอยู่ เพียงแต่พรรคคาดโทษเอาไว้ว่าถ้ามีพฤติการณ์แบบที่เกิดขึ้นอีกจะนำไปสู่การขับออกจากพรรค ได้อีกครั้ง

“กรณีนายไชยามพวาน ซึ่งพรรคชี้ว่าผิดวินัยร้ายแรง หากมีความผิดทางอาญาก็นำไปสู่การขาดสมาชิกภาพสส.ได้เลย ซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องดำเนินคดีทางอาญาก่อน ส่วนในแง่จริยธรรมจะต้องมีกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ และต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร รวมทั้งเรื่องของจริยธรรม ทางการเมืองก็อาจจะมีข้อต่อสู้ได้หลายอย่าง เช่นเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่ในการกระทำดังกล่าวหรือไม่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของคดีอาญาแล้วคดีถึงที่สุด และมีโทษจำคุกก็จะต้องพ้นจากสมาชิกภาพส.ส. โดยทันที” ยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร กล่าวถึงผลกระทบทางการเมืองต่อพรรคก้าวไกลในกรณีที่เกิดขึ้นว่า ในส่วนของพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะสิ่งที่พรรคนำเสนอเป็นเรื่องของอุดมการณ์หรือตัวพรรคทางการเมืองในส่วนของฐานเสียงผู้สนับสนุน ดังนั้น หากจะเปลี่ยนตัวสส. เชื่อว่าฐานเสียงที่สนับสนุนก็ยังเลือกพรรคก้าวไกลอยู่ แต่สิ่งสำคัญในแง่ภาพลักษณ์ ของพรรคจะต้องแก้ไขปัญหาตรงนี้พอสมควร และสิ่งที่จะมีผลมากกว่าคือปัจจัยภายในของพรรค เพราะอาจจะมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มสส. โดยเฉพาะสส.หญิงหรือสส.ที่เคลื่อนไหวในประเด็นเรื่องสิทธิสตรี เรื่องการคุกคามทางเพศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบทางการเมืองภายในพรรคและอาจจะทำให้ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มสส.เหล่านี้ส่งผลต่อความเป็นเอกภาพของพรรค ถือเป็นโจทย์ใหญ่มากกว่าการได้รับสนับสนุนจากนอกพรรค

“หากไม่เร่งแก้ไข เชื่อว่าจะบานปลายส่งผลต่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ เพราะมีสส.หลายคนไม่พอใจ อาจมีผลต่อการเมืองภายในพรรคโดยเฉพาะการตั้งคำถามไปถึงกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรคคนใหม่ด้วย วันนี้สถานการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลพร้อม ๆ กัน รวมถึงกองเชียร์ที่อยู่ภายนอกในส่วนของพรรคก้าวหน้า รวมทั้งบทบาทของนายปิยบุตร แสงกนกกุลที่บอกว่าจะหยุดวิพากษ์วิจารณ์ เพราะกองเชียร์ออกมาถล่ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เข้ามาสู่พรรคก้าวไกลในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อพร้อมๆกัน” นายยุทธพร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เคลียร์พื้นที่ตึก สตง.ถล่มครบ ไม่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม

ผอ.สปภ. เผยเคลียร์พื้นที่ครบ ไม่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่วนผู้ประสบภัยที่เหลือ 7 ราย ต้องรอนิติเวชรายงานผลการพิสูจน์ชิ้นส่วนกว่าร้อยชิ้น ยืนยันคืนพื้นที่ตามกำหนด 15 พ.ค.นี้ และทางตำรวจจะอายัดพื้นที่เพื่อสอบสวนหาสาเหตุต่อ

รมว.สธ. ขออย่าตื่นตระหนกโควิด-19 กลับมาระบาดหนัก

“สมศักดิ์” ขออย่าตื่นตระหนกโควิด-19 กลับมาระบาดหนัก ชี้ปัจจุบันกลายเป็นโรคประจำถิ่น ติดง่าย แต่อาการรุนแรงน้อย เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลงแล้ว แนะปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เตือนหากเสี่ยง ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

เตือนอีสาน ระวังพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองลูกเห็บตก

กรมอุตุฯ เตือนอีสาน ระวังพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่า ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

นักวิชาการ ชี้ข่าวลบไม่กระทบคะแนนเสียง สท.ธัญบุรี

การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี วันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้ นับว่าแข่งขันกันดุเดือด นักวิชาการ และประชาชนมองอย่างไร ลองไปไล่เรียงกัน