กรุงเทพ 24 ต.ค.- “รมช.สุรพงษ์” ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้พักอาศัยอาคารชุดแอชตัน อโศก จากการอนุญาตใช้พื้นที่ของ รฟม.คาดภายใน 30 วันจะได้ข้อสรุปแนวทางแก้ปัญหา
หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีกลุ่มตัวแทนลูกบ้านแอชตัน อโศก เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอความเป็นธรรมและขอแนวทางการให้ความช่วยเหลือ กรณีที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติผิดพลาดของหน่วยงานรัฐ คือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรณีทางเข้าออกโครงการคอนโดมิเนียมแอชตัน อโศก
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าว ได้แจ้งถึงความเดือดร้อน ภายหลังที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะการก่อสร้าง(ม.39 ทวิ) โครงการแอชตัน อโศก เนื่องจากเห็นว่า รฟม.ไม่มีอำนาจนำที่ดินที่ได้จากการเวนคืนมาให้โครงการแอชตัน อโศก ใช้ประโยชน์ ส่งผลให้ลูกบ้านจำนวน 668 ราย ซึ่งซื้อห้องชุดในโครงการดังกล่าวมาด้วยความบริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และยังหาทางออกมิได้ จึงขอให้กระทรวงคมนาคมสั่งการให้ รฟม. แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางเข้า-ออกโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก ให้ถูกต้องต่อไป
ล่าสุดวันนี้นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยคมนาคม ซึ่งกำกับดูแล รฟม. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาผู้ได้รับผลกระทบการอนุญาตใช้พื้นที่ของ รฟม.
การแต่งตั้งดังกล่าวมี นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานและมีอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และ ผู้ว่า รฟม.เป็นคณะทำงาน พร้อมด้วย ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนจากสำนักงานกฤษฎีกาและผู้แทนกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นคณะทำงาน เป็นต้น
โดยคณะทำงานชุดนี้ มีอำนาจหน้าที่ ศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง,ให้ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหารวมถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนผู้เดือดร้อน,ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามมติของคณะทำงาน,ให้ผู้มีอำนาจเชิญบุคคลร่วมหารือ,แต่งตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อสนับสนุนคณะทำงานชุดนี้และ ในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่า มีข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่เพียงพอ ให้ผู้มีอำนาจขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
นายสรพงศ์ กล่าวว่า จะเร่งเสนอแนวทางแก้ไขให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์และภายใน 30 วันจะได้ข้อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้ รฟม.ไปดำเนินการต่อเพราะถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน.-สำนักข่าวไทย