กรุงเทพฯ 9 ก.ค.-พาณิชย์พร้อมจัดงาน Organic and Natural
Expo 2017 โชว์ศักยภาพเกษตรอินทรีย์ไทย
สร้างความตื่นตัวในการบริโภคเพื่อสุขภาพ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
และสร้างเครือข่ายทางการค้าเชื่อมโยงตลาดโลก
นางอภิรดี ตันตราภรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยถึงความพร้อมในการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ผ่านการจัดงาน
Organic and Natural Expo 2017
ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 27-30 กรกฎาคม
2560 นี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในการบริโภคเพื่อสุขภาพ
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างเครือข่ายทางการค้าเชื่อมโยงตลาดโลก
โดยจัดให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การสัมมนาทางวิชาการด้านสินค้าอินทรีย์และโอกาสทางการค้าในอาเซียน มีการออกร้านแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์กว่า
200 บูธ จากเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ
รวมทั้งประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน
การทำเกษตรอินทรีย์ส่วนใหญ่เริ่มจากกลุ่มผู้สนใจในสุขภาพกลุ่มเล็กๆ
รวมตัวกันทั้งเกษตรกรผู้ผลิต ผู้แปรรูป และผู้บริโภค
ในหลายพื้นที่มีเกษตรกรรวมตัวกันทำเกษตรอินทรีย์จนมีความเข้มแข็งและได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากองค์การระหว่างประเทศ
อาทิ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ชาวสวนบ้านหัวอ่าว (สามพรานโมเดล) จังหวัดนครปฐม
ไร่ปลูกรัก จังหวัดราชบุรี เป็นต้น
ในขณะที่จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศ
มีโรงเรียนชาวนานครสวรรค์
มีกลุ่มเกษตรกรและผู้สนใจได้รวมตัวกันผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ จำพวกข้าว
และพืชผักชนิดต่างๆ โดยเปิดเป็นตลาดนัดคนรักอินทรีย์ “ฟาร์มฝันปันสุข”
ณ พื้นที่กลางเมืองปากน้ำโพ จัดทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน
รวมทั้งทำกิจกรรมที่สร้างจิตสำนึกของสังคมในการรณรงค์ลดขยะ ถุงพลาสติก
โดยใช้ถุงผ้า ใบตอง จนสร้างเป็นนิสัย เพื่อลดภาวะโลกร้อน
รวมทั้งทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนเพื่อสร้างความตระหนักและปลูกฝังให้เยาวชน
ผู้ปกครองเห็นถึงคุณค่าของเกษตรอินทรีย์
ในขณะที่ผู้ประกอบการโรงสีจำนวนมากจากทุกภาคของประเทศก็สนใจเข้าร่วมโครงการผลิตข้าวปลอดภัยและข้าวอินทรีย์
ด้วยเช่นกัน
ส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน
มีกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์
เป็นกาแฟพันธุ์อราบิก้าโดยจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงเดือนพฤศจิกายน
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะได้ประสานบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟรายใหญ่เพื่อ รับซื้อกาแฟจากเกษตรกรโดยตรง
เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด
และประชาสัมพันธ์กาแฟอินทรีย์ของดีจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย
“การสนับสนุนให้เกษตรกรได้เห็นความสำคัญของเกษตรอินทรีย์
การดูแลสุขภาพสิ่งแวดล้อม และได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม
เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกภาคส่วนต้องตระหนักและร่วมกันพัฒนาการทำเกษตรอินทรีย์ให้ได้มาตรฐานระดับชาติและระดับนานาชาติเป็นการสร้างมูลค่าทางการค้าและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งผู้ผลิตผู้ค้าและผู้บริโภค”
นางอภิรดี กล่าว.-สำนักข่าวไทย