18 ก.ย.- ช่วง “เชียร์ไทยสุดใจ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 หางโจวเกมส์ 2022” ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาไปร่วมชิงชัยถึง 940 คน ใน 40 ชนิดกีฬา ตั้งความหวัง คว้า 15 เหรียญทอง
หากย้อนผลงานของทัพนักกีฬาทีมชาติไทยในกีฬาเอเชียนเกมส์ 3 ครั้งหลังสุด เริ่มที่เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่เมืองกว่างโจว ของจีน เมื่อปี 2010 ทีมชาติไทย คว้าอันดับ 9 ด้วยผลงาน 11 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2014 คว้าอันดับ 6 ด้วยผลงาน 12 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 28 เหรียญทองแดง และล่าสุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ต้า และเมืองปาเลมบัง ของอินโดนีเซีย เมื่อปี 2018 คว้าอันดับ 12 ด้วยผลงาน 11 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 46 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นเอเชียนเกมส์ ที่ไทย หล่นไปรั้งอันดับ 2 ของอาเซียน โดยถูก อินโดนีเซีย เจ้าภาพ แซงขึ้นไปรั้งอันดับ 4 คว้าไปถึง 31 เหรียญทอง
ซึ่งในหางโจวเกมส์ 2022 ทัพนักกีฬาไทยที่เดินทางไปแข่งขันชิงชัยเหรียญทองถึง 940 คน ได้เก็บตัวฝึกซ้อมและตระเวนแข่งขันเก็บเกี่ยวหาประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 48 สมาคมกีฬาของไทยที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน 40 ชนิดกีฬาในหางโจวเกมส์ครั้งนี้ ได้เปิดเผยความพร้อมและความคาดหวังเหรียญรางวัล ในงานมีทเดอะเพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตั้งเป้าคว้าเหรียญรางวัลเอาไว้ที่ 15 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 36 เหรียญทองแดง โดยหากมองถึงความหวังในการคว้าเหรียญทองที่น่าจะแน่นอนเกือบ 100% ของทัพนักกีฬาไทย คงต้องยกให้กับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโด้สาวอันดับ 1 ของโลก เจ้าของแชมป์เก่า และเหรียญทองโอลิมปิก 2020 โตเกียวเกมส์ ที่หวังจะป้องกันแชมป์ในการลงไล่ล่าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ครั้งสุดท้ายของตัวเอง ถ้าหากไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือฟอร์มหลุดก็ไม่น่าพลาดสำหรับเหรียญทองนี้ที่จะชิงชัยในวันที่ 25 กันยายนนี้
ส่วนอีก 1 ชนิดกีฬาที่ไม่น่าพลาด คือ เซปักตะกร้อ ที่ทำผลงานในเอเชียนเกมส์ 3 ครั้งหลังสุด กวาดเรียบทั้ง 4 เหรียญทอง ซึ่งหางโจวเกมส์ครั้งนี้ สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งสูญเสีย พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ก็ตั้งเป้าที่จะกวาดเรียบทั้ง 4 เหรียญทองให้ได้อีกครั้ง เพื่อเป็นการรำลึกและเป็นเกียรติให้กับอดีตเจ้านายผู้ล่วงลับ
นอกจากนี้กีฬายอดนิยมที่เป็นความหวังในการคว้าเหรียญทองของทัพนักกีฬาไทยในหางโจวเกมส์ ยังมี แบดมินตัน ที่มี “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดฯ ชายเดี่ยวแชมป์โลกคนล่าสุด ที่ตัดสินใจถอนตัวจากศึกไชน่า โอเพ่น และฮ่องกง โอเพ่น เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับล่าเหรียญทองเอเชียนเกมส์
ขณะที่ มวยสากล ตั้งเป้า 1 เหรียญทอง, ยกน้ำหนัก ที่ได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุด ตั้งแต่เอเชียนเกมส์ 2006 โดฮาเกมส์ ก็ต้องมาลุ้นกับจอมพลังจากจีน เกาหลีใต้ เวียดนาม อินโดนีเซีย, ยิงปืน หวัง 2 เหรียญทอง, กรีฑา ลุ้นเหรียญทองจากประเภทลู่ ระยะสั้นโดยเฉพาะ 4×100 เมตรชายและหญิง และประเภทลาน ส่วนวอลเลย์บอล โดยเฉพาะวอลเลย์บอลในร่มทีมหญิง ที่เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียล่าสุด และวอลเลย์บอลชายหาดทีมหญิง ก็แอบหวังเหรียญลึกๆ ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่าทัพนักกีฬาไทยจะทำผลงานได้ตามเป้าและดีกว่าเอเชียนเกมส์ครั้งที่ผ่านมา รวมถึงยึดอันดับ 1 ของอาเซียนคืนมาจากอินโดนีเซียให้ได้ .-สำนักข่าวไทย