นนทบุรี 2 ก.ค. – กระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ปลูกข้าวภาคอีสานติดตามมาตรการข้าว พบมีสัญญาณเชิงบวก ไม่เรียกร้องราคาที่บิดเบือนกลไกตลาด แนะส่งเสริมตั้งแต่การผลิตจนถึงการเก็บเกี่ยว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการการทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายวิจักร วิเศษน้อย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่เพาะปลูกข้าวในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัดได้แก่ อุบล ร้อยเอ็ด และยโสธร เพื่อหารือเรื่องมาตรการข้าวร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่และได้เชิญเกษตรกรพื้นที่ข้างเคียงเข้าร่วมด้วย เช่น ศรีสะเกษ ยโสธร บุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธ์ มหาสารคาม รวมทั้งตัวแทนผู้ส่งออกและตัวแทนโรงสี จากการหารือเกษตรกรครั้งนี้พบว่ามีสัญญาณเชิงบวกกับมาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้และไม่ได้ต้องการเรียกร้องราคาข้าวที่เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด โดยมาตรการที่เกษตรกรพึงพอใจ เช่น การช่วยเหลือต้นทุนการผลิตและค่าเก็บเกี่ยว โครงการชะลอการจำหน่ายข้าวในยุ้งฉาง ซึ่งในมาตรการนี้เกษตรกรมีความเห็นว่าควรเร่งประกาศราคาสินเชื่อและค่าฝากเก็บก่อนผลผลิตออก และในเรื่องของยุ้งฉางซึ่งเกษตรกรมียุ้งฉางจำกัด จึงเห็นว่าควรให้เกษตรกรสามารถนำข้าวไปร่วมโครงการได้โดยฝากเก็บไว้กับโรงสีหรือกลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพ
นอกจากนี้ ยังพบว่าความต้องการของเกษตรกร/กลุ่มเกษตรกรที่แท้จริงไม่ใช่การจำนำข้าว หรือการนำเงินไปให้ แต่แท้จริงแล้วเกษตรกรต้องการความยั่งยืนจากการทำอาชีพเกษตรกรรมมากกว่า โดยเกษตรกรมีข้อเรียกร้องขอให้รัฐช่วยเรื่องเครื่องจักรกลทางการเกษตร และการลดต้นทุนการผันน้ำโดยใช้แผงโซลาเซลล์แทนการใช้น้ำมันหรือไฟฟ้า และเนื่องจากเกษตรยังไม่มีแผนการบริหารจัดการเครื่องจักรกล จึงมอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยเรื่องการจัดทำแผนธุรกิจให้แก่เกษตรกร และเนื่องจากน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการปลูกเกษตรกร จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องการสำรวจแหล่งน้ำ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งช่วยในเรื่องช่องทางการจำหน่ายตรงให้แก่ผู้บริโภค และเนื่องจากผลกระทบจากโครงการจำนำข้าว ทำให้เกษตรกรไม่มีแรงจูงใจจึงขาดการพัฒนาด้านการผลิต จึงเห็นว่าควรให้มีการส่งเสริมให้พัฒนาตั้งแต่การผลิตจนกระทั่งการเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ ในครั้งหน้าจะมีการลงพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ได้แก่ เชียงราย แพร่ พิษณุโลก.-สำนักข่าวไทย