กทม. 8 ก.ย.-ชุดหนุมานคุมตัว “กำนันนก” สอบปากคำเพิ่ม ที่กองปราบฯ จ่อเรียกพยานทั้งพลเรือน ตำรวจในเหตุการณ์สอบ 30 ปาก พบคนทำหน้าที่เก็บกวาดที่เกิดเหตุ เป็นลูกน้อง “กำนันนก”ยังไม่พบตัวคนถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด
ชุดหนุมาน พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ควบคุม นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ผู้ต้องหาในคดีผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น มาสอบปากคำ หลังโอนสำนวนคดีที่กองปรามปราม จากกรณีที่ นายธนัญชัย หมั่นมาก ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง พันตำรวจตรีศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิต และยิง พันตำรวจตรีวศิน พันปี รองผู้กำกับการตำรวจทางหลวง ได้รับได้บาดเจ็บ ภายในงานเลี้ยงที่ทำการของกำนันนก เมื่อวันที่ 6 กันยายน โดย “กำนันนก” มีสีหน้าเคร่งเครียดปฏิเสธตอบทุกคำถามกับสื่อมวลชน นอกจากนี้มีญาติและทนายมาติดต่อขอเยี่ยมกำนันนกด้วยโดยไม่ได้เปิดเผยใดๆ
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงการดำเนินคดี “กำนันนก” ว่าเบื้องต้นจะต้องดูสำนวนเดิมจาก สภ.เมืองนครปฐม พื้นที่เกิดเหตุ ว่าครบถ้วนหรือไม่ จากนั้นจะนำมาประกอบกัน จะมีการสอบถามเพิ่มเติม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด และการทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า คนที่ทำหน้าที่เก็บกวาด และทำความสะอาดในที่เกิดเหตุ เป็นลูกน้องของกำนันนก แต่ยังไม่พบตัวผู้ที่ถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด
ทั้งนี้เตรียมสอบพยานรวมกว่า 30 ปาก แบ่งเป็นพลเรือนที่ไปร่วมงานประมาณ 10 ปาก และตำรวจประมาณ 20 ปาก ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ หรือความผิดฐาน 157 เป็นหน้าที่ของตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เป็นผู้สอบสวน
ส่วนผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธนั้น ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยชั้นสอบได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ข่มขู่ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล เตรียมควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง
นอกจากนี้ ในส่วนของนายหน่อง มือปืน คดีจะอยู่ในสำนวนด้วย แต่ก็ถือว่าคดีสิ้นสุดแล้วเนื่องจากเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป่องกันปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยว่า ตามที่มีคำสั่งตั้งกรรมสอบข้อเท็จจริง ข้าราชการตำรวจทางหลาวหลายนายอยู่ในที่เกิดเหตุยิงตำรวจทางหลวง ถือเป็นความผิดซึ่งหน้า ตามมาตรา 78 เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจทำการจับกุมแต่ปล่อยให้ผู้กระทำผิดหลบหนีไปได้ เบื้องต้นเตรียมเรียกตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า 10 นาย มาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ ที่กองบังคับการป่องกันปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ.-สำนักข่าวไทย