กทม. 26 ส.ค.- “บ่าวนิก” ไทยสร้างไทย ลุยทำงานต่อ โอดยาเสพติดระบาดหนัก ร้องรัฐเร่งบำบัดอย่างครบวงจร ปราบปรามผู้ค้า สร้างช่องทางแจ้งเบาะแสที่ปลอดภัย
สิรภพ สมผล หรือ บ่าวนิก รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย เผยกับผู้สื่อข่าวถึงการลงพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีการแพร่ระบาดอย่างหนักของยาเสพติด แต่ยังมีการควบคุมได้ไม่เพียงพอ
นายสิรภพ กล่าวว่า หลังจากผ่านการเลือกตั้งไปแม้ตนจะไม่ชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ยังได้รับความไว้วางใจจางพรรคให้ดูแลพื้นที่และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป โดยประชาชนในพื้นที่ก็ยังให้กำลังใจและให้การตอบรับที่ดีกับตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ประชาชนก็ยังจับตาดูการทำงานของแต่ละฝ่ายอยู่ โดยในช่วงนี้ที่ลงพื้นที่อยู่ปัญหาที่มีมากและมีชาวบ้านร้องเรียนเข้ามามากคือการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะการที่มีผู้เสพเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถควบคุมได้ เพราะในขณะที่ผู้เสพที่ต้องถือว่าเป็นผู้ป่วยที่ควรจะต้องได้เข้ารับการบำบัดนั้น ส่วนมากไปไม่ถึงการบำบัด ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ หากประสานไปยังโรงพยาบาลก็ทำได้แค่การเก็บหลักฐานบันทึกไว้ว่าเป็นผู้ติดยาเสพติดจริง และถ้าส่งต่อไปที่ตำรวจก็ทำได้เพียงจับคุมขังไว้ให้หายคุ้มคลั่ง หรือหายจากอาการแล้วก็ปล่อยกลับมา โดยที่ไม่ได้มีการเข้าสู่กระบวนการบำบัด จนหลายคนขังแล้วขังอีกแต่ก็ยังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
นายสิรภพ กล่าวว่ามีกรณีหนึ่งที่น่าสะเทือนใจมากคือลูกติดยาเสพติดแล้วคุ้มคลั่ง จนทำให้พ่อแม่ต้องย้ายออกจากบ้าน เมื่อไปแจ้งตำรวจก็ทำได้เพียงระงับเหตุเฉพาะหน้า แต่ไม่สามารถจะป้องกันเหตุที่จะเกิดล่วงหน้าได้ โดยได้เรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามารวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะสร้างการบำบัดที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการประชาสัมพันธ์เพื่อจะนำตัวผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัด และให้การบำบัดมีมาตรฐานไม่ให้กลับมาติดอีก
อีกปัญหาที่เกิดขึ้นควบคู่กัน คือปัญหาของผู้ค้า ในส่วนหนึ่งตนก็ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพยายามทำงานอย่างเต็มที่ มีการประสานกำลังกับ ตชด.เพื่อปราบปราบยาเสพติดล็อตใหญ่ในบริเวณชายแดนได้หลายครั้ง แต่ยังมีปัญหาที่เกิดจากผู้ค้ารายย่อยที่อยู่ตามชุมชน ที่ยังมีอยู่มาก ยังไม่ได้ถูกปราบปรามเท่าที่ควร ตนก็อยากจะขอร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งจัดการปัญหาดังกล่าว เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก และอยากให้มีการประชาสัมพันธ์หรือมีหน่วยงานที่มารับเรื่องในการแจ้งเบาะแสที่ปลอดภัยและเป็นความลับ เนื่องจากประชาชนเองก็มีความหวาดกลัวในความไม่ปลอดภัย จากการแจ้งเบาะแส
นายสิรภพ กล่าวว่าตนยังทำงานเพื่อรับเรื่องเดือดร้อนจากชาวบ้าน และช่วยจับตาเรื่องราวต่างๆอยู่ ผ่านเพจ สกลนครซิตี้ และ เพจ บ่าวนิก สิรภพ สมผล โดยเฉพาะเรื่องคือโครงการก่อสร้างต่างๆ เช่น การก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำหลักของเมืองสกลนครที่ได้งบประมาณมา 300 กว่าล้านบาท แต่ตอนนี้ทำโครงการมาแล้ว 4 ปียังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ถนนในเมืองสกลนครที่คาบเกี่ยวกับการก่อสร้างได้รับผลกระทบเพิ่มอย่างหนักด้วย .-สำนักข่าวไทย
