ทำเนียบ 26 ก.ค.-นายกรัฐมนตรีให้โอวาทนักเรียนในโครงการทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. ย้ำประเทศชาติอยู่ได้ด้วยแกนหลักสำคัญ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้(26 ก.ค.66) นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี นำคณะตัวแทนนักเรียน โครงการทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) และ โครงการทุนเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จำนวน 16 คน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทตัวแทนนักเรียนทุนที่เข้าพบ ซึ่งประกอบด้วยทั้งผู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษา และจบการศึกษาแล้ว ประกอบอาชีพในภาครัฐและเอกชนหลากหลายสาขาอาชีพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการทุนการศึกษาพระราชทานฯ เป็นทุนที่ยิ่งใหญ่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้แก่เยาวชนมาเป็นเวลาเกือบ 15 ปี เป็นโอกาสที่พระราชทานแก่คนรุ่นใหม่ ทรงมุ่งหวังให้ทุกคนเติบโต มีงานทำแล้วกลับไปพัฒนาภูมิลำเนาและบ้านเกิดตัวเอง
สิ่งที่อยากฝาก คือขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดในอดีตที่มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ช่วยให้เราคิดตัดสินใจได้ว่าอะไรไม่ดีก็ไม่ทำอีก สิ่งไหนดีเราก็สืบสานไม่เอามาขัดแย้งกัน ซึ่งจากการได้หารือแลกเปลี่ยนนักเรียนทุนทุกคนมีกระบวนการคิดที่ดี มุ่งหวังทำสิ่งที่ดีต่อประเทศ ซึ่งก็อยากให้ถ่ายทอดแนวคิดต่างๆ เหล่านี้สู่เยาวชนคนอื่นๆ ต่อไป เพื่อร่วมกันทำให้ประเทศไทยมีความรักความสามัคคีซึ่งเป็นฐานสำคัญที่จะไปสู่ความเจริญก้าวหน้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ตนเองทำส่วนหนึ่ง รัฐบาลทำส่วนหนึ่งเพราะไม่มีใครจะทำคนเดียวได้ รัฐดูแลให้ทั้งหมดไม่ได้เพราะประเทศมีคน 60-70 ล้านคน จึงขอฝากประเทศชาติไว้ให้คนรุ่นใหม่ช่วยกันดูแล และขอให้ระลึกเสมอว่าทั้งหมดนี้คือพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ที่ได้ทรงพระราชทานให้ทุกคน ขอให้นำสิ่งเหล่านี้ไปสืบสานไปสู่ครอบครัว ลูกหลาน และประเทศชาติ ทำให้ประเทศเติบโตไปข้างหน้า ซึ่งตอนนี้หลายอย่างทำสำเร็จ หลายอย่างก็มีปัญหาซึ่งต้องฟังกันและกัน ตามหลักของประชาธิปไตย แต่ก็ต้องมีกติกา มีกฎหมาย ให้เกียรติกันและกัน
“สำคัญคือประเทศไทยจะอยู่ได้ด้วยแกนหลักสำคัญคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนที่ได้รับการดูแลให้มีความสุข บ้านเมืองตอนนี้มีหลายอย่างต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลง แต่สำคัญคือเราต้องมีหลักคิดที่ถูกต้อง ชอบธรรม เหมาะสม และขับเคลื่อนสังคมเราไปข้างหน้า ทำเพื่อคนอื่น คิดก่อนกว่าจะทำอะไรให้ใคร แล้วทุกอย่างจะกลับมาที่เรา เกิดเป็นกุศลตัวเราก็มีความสุข” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างการเข้าพบ ตัวแทนนักเรียนทุน ม.ท.ส. และทุนเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นประเด็นต่างๆกับนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้ขับร้องเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นายกรัฐมนตรีด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โครงการทุน ม.ท.ศ. เกิดขึ้นจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อปี 2552 ที่ทรงให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามพระราชปณิธานที่มุ่งสร้างโอกาสแก่เยาวชนที่ประพฤติดี มีความสามารถในการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มั่นคง ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายต่อเนื่องจนสำเร็จปริญญาตรี
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2552-64 มีนักเรียนได้รับทุนพระราชทานไปแล้ว 14 รุ่น รวม 2,240 คน จากทุกจังหวัดทั่วประเทศ เงินทุนพระราชทาน จำนวน 702 ล้านบาท
สำหรับทุนเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เกิดขึ้นในปี 2562 ที่สำนักงาน ก.พ. ได้ทูลเกล้าฯ ถวายทุนรัฐบาล ก.พ. จำนวน 100 ทุน แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และสืบสาน พระบรมราโชบายด้านการศึกษาตามโครงการทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. และปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการ ม.ท.ศ. โดยมีคณะทำงานทุนเฉลิมพระเกียรติฯ ดำเนินการคัดเลือกนักเรียนทุนฯ ม.ท.ศ. เพื่อผู้รับทุนเฉลิมพระเกียรติฯ ปีละ 10 ทุน โดยเริ่มดำเนินการในปี 2564 เป็นปีแรก .-สำนักข่าวไทย