“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เตรียมยื่นผู้ตรวจฯ ปลดล็อกผลมติประชุมรัฐสภา

พรรคเพื่อไทย 21 ก.ค. – “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” บอกไม่ได้ผิดแก้ ม.112 ชี้ รัฐธรรมนูญยังแก้ได้ เตรียมยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินปลดล็อกผลมติการประชุมรัฐสภา ปมญัตติเสนอชื่อ “พิธา”เป็นนายกฯ ซ้ำไม่ได้ 26 ก.ค.นี้


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ตอบคำถามในการแถลงข่าวกับ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ถึงกรณีการลดเพดานการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลว่า การขอแก้ไขมาตรา 112 เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นความผิดอะไรเลย เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญยังแก้ได้ ตนเคยอภิปรายในสภาฯ ว่าการแก้ไขมาตรา 112 มีมาตั้งแต่ ปี 2499 และเกิดอีกครั้งในปี 2519

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ในกรณีการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. วาระการตีความข้อบังคับรัฐสภาที่ 41 ว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สามารถเสนอซ้ำได้หรือไม่นั้น หากไปตรวจสอบจะพบว่าตนไม่ได้ไปลงคะแนน เพราะตนเห็นว่าผิดรัฐธรรมนูญ ถ้าตนไปร่วมลงคะแนนด้วย เท่ากับตนไม่ยอมรับเขา ตนจึงไม่ลง แต่ตนไม่ได้ไปไหน


ส่วนการนำเรื่องการตีความข้อบังคับรัฐสภาข้อที่ 41 ไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหายหรือเกี่ยวข้องหรือไม่ และถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ หากไม่ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ไม่รับคำร้อง หากผู้ตรวจการแผ่นดินรับเขาก็ผิด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ตนจะดำเนินการนำเรื่องนี้ไปยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเอง และขอให้สมาชิกพรรคต่างๆ ช่วยลงชื่อด้วย เพื่อปลดล็อกผลมติการประชุมรัฐสภาในครั้งที่แล้วให้ได้ เพราะเมื่อยังไม่ได้ปลดล็อก จึงถูกบังคับใช้มาเรื่อยๆ จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี หากล็อกยังไม่ถูกปลดก็จะถูกบีบอยู่เช่นนี้

ส่วนวิธีการจะทำได้อย่างไรนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยกกรณีเสนอชื่อของนายพิธา ในครั้งที่ 2 ขึ้นมาว่า สมมติกรณีนี้ถูกปลดล็อกแล้ว เท่ากับว่าเสนอได้ แต่มติเช่นนั้นทำให้ตนกลายเป็นผู้เสียหาย ตนจึงฟ้องผู้ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการสืบสวน และดำเนินคดีกับพรรคการเมืองที่กระทำการทุจริต ประพฤติมิชอบ และกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย โดยตนจะดำเนินการพร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย


“จะเป็นนายกรัฐมนตรี ดันไม่ให้เป็น ฟ้องไปสักพันล้าน พอหรือเปล่าก็ไม่รู้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงประเด็นที่เคยกล่าวว่า “หากมีการเสียสละก็พอไปต่อได้ เด็กหนุ่มต้องเสียสละลงจากเรือก่อน” หมายถึงอะไร ให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านหรือไม่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปคิดเอา ใครควรจะเสียสละ เพราะตนเสียสละ เพื่อไทยก็ไม่ได้ประโยชน์ เพราะตนมีเสียงเดียว เดี๋ยวขอให้เพื่อไทยดำเนินการดีกว่า อย่าถามอะไรมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]