กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – สรท.- ธปท.เห็นพ้องช่วยเหลือผู้ส่งออกจากปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ระบุหลายปัจจัยควบคุมไม่ได้
นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ร่วมกับ คณะกรรมการ สรท.เข้าพบนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะผู้บริหาร ธปท. โดยคณะกรรมการ สรท.ยืนยันว่าสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าปัจจุบันส่งผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกของไทยตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยเฉพาะการกำหนดราคาขายสินค้ากับคู่ค้าที่เศรษฐกิจประสบภาวะเงินเฟ้อและค่าเงินอ่อนค่า เพราะจะทำให้สินค้าไทยแพงขึ้นอย่างมากในสายตาของผู้บริโภค โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งสำคัญทางการค้า เช่น จีน เวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ซึ่งค่าเงินแข็งค่าน้อยกว่าค่าเงินบาทของไทย อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงฟิลิปปินส์ที่ค่าเงินอ่อนค่า เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการ สรท.เสนอให้ ธปท.ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอในการรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้ไม่สูงกว่าประเทศคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญ การให้ข้อมูลและทิศทางของค่าเงินบาท รวมถึงสาเหตุของการแข็งค่าและอ่อนค่าแต่ละครั้งว่าเกิดจากเหตุใด เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคการส่งออกเข้าใจและสามารถใช้เป็นแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนเสนอให้ ธปท.พิจารณาแนวทางสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยสามารถเข้าถึงบริการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้มากขึ้นและมีต้นทุนที่ไม่สูงเกินไป อาทิ การลดค่าธรรมเนียม การเพิ่มวงเงินสำหรับการใช้บริการป้องกันความเสี่ยง เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกมีการใช้บริการป้องกันความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องมากขึ้น
คณะกรรมการ สรท.ได้รับฟังคำชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ในปัจจุบัน ตลอดจนแนวทางการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องในอนาคต ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้หลายประการ โดยเฉพาะการเมืองระหว่างประเทศและการ เข้ามาลงทุนในตลาดทุนและตลาดการเงินระยะสั้น ทำให้เกิดการแข็งค่าอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องให้มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้ง 2 องค์กร ทั้งการจัดประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและวิเคราะห์ สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศร่วมกัน เพื่อหาข้อสรุปและทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับแจ้งให้กับผู้ส่งออกได้รับทราบสถานการณ์ที่แท้จริงและรับมือได้ทัน การร่วมมือกันส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการส่งออก การผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันให้มีการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการซื้อขายสินค้ากับประเทศคู่ค้าที่มีความตกลงกันในเรื่องดังกล่าวให้มากขึ้น โดยเฉพาะการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ คณะกรรมการ สรท.หารือกับคณะผู้บริหาร ธปท.ถึงประเด็นด้านการเงินอื่นที่เกี่ยวกับการ ประกอบธุรกิจ อาทิ ความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายและดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของผู้ประกอบการ โดยมีความเห็นร่วมกันว่าในส่วนของธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้ดีขึ้นเพื่อลดต้นทุน ตลอดจนหันมาให้ความสำคัญกับ FINTECH ให้มากขึ้น เพื่อให้มีความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการและทำให้ต้นทุนในการทำธุรกรรมแต่ละครั้งลดต่ำลง .-สำนักข่าวไทย