ศาลปกครอง 5 มิ.ย. – กลุ่มผู้เสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหยุดเอเปค2022 ยื่นฟ้อง สตช. และ ผบ.ตร. ต่อศาลปกครองเรียกร้องค่าเสียหายรวม กว่า 12ล้านบาท
นายพายุ บุญโสภณ และผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 รวมจำนวน 19 คน พร้อมทนายความเดินทางมามายื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน และผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ต่อศาลปกครองกลาง ในข้อหาร่วมกันละเมิดเสรีภาพการชุมนุมและใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้ชุมนุม กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นขัดขวางและใช้กำลังสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 บริเวณลานคนเมืองและถนนดินสอ กทม. เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2565 ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขชั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และชัดต่อหลักการและแนวทางปฏิบัติตามหลักการสากลของสหประชาชาติ รวมถึงแผนและคู่มือแนวทางปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเป็นเหตุให้พวกตนและผู้ชุมนุมถูกละเมิดต่อเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และได้รับอันตรายความเสียหายต่อร่างกายและจิตใจ
พร้อมขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้ค่าเสียหายต่อเสรีภาพการชุมนุม ค่าเสียหายต่อร่างกาย ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายต่อจิตใจ ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน ค่าขาดรายได้ ค่าเสียหายจากการเสื่อมเสียชื่อเสียงและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 19 คน รวม 12,499,891 บาท และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชาตำรวจที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลไม่ให้มีการปิดกั้นขัดขวางและหรือใช้กำลังในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะที่รุนแรงเกินจำเป็น ไม่ได้สัดส่วนและเกินสมควรแก่เหตุกับผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม และกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามหลักการปฏิบัติสากลเกี่ยวกับการใช้กำลังและเครื่องมือควบคุมฝูงชนอย่างเคร่งครัดและด้วยความระมัดระวังโดยคำนึงถึงการรับรองและคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชน รวมถึงกำหนดให้มีการเปิดเผยรายงานการปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะ รายละเอียดการ ใช้กำลัง รายชื่อตำรวจเกี่ยวข้อง และรายชื่อตำรวจที่ใช้ความรุนแรงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ชุมนุม ให้สาธารณะหรือประชาชนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบได้ด้วยเพื่อเป็นการชดเชยเยียวยาความเสียหายและปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของประชาชนผู้ชุมนุม และเพื่อวางบรรทัดฐานที่ดีแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานเจ้าหน้าที่รัฐในการรับรองคุ้มครองและเคารพต่อเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชนทุกกลุ่มต่อไป.-สำนักข่าวไทย