สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 19 มิ.ย.- “ศรีสุวรรณ” ยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลรธน.-ศาล ปกครอง สอบคำสั่ง ม. 44 สร้างรถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราช ชี้เข้าข่ายเอื้อประโยชน์จีน ทำไทยสูญเสียอำนาจอธิปไตย ยันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องออกใช้ ม.44 ลดขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าเมื่อเวลา 10.00 น. สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดยนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมฯเข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายฐนภณ ธนวชิรนนท์ เจ้าหน้าที่สืบสวนอาวุโสระดับสูง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองวินิจฉัยว่า คำสั่งคสช.ที่ 30 /2560 กรณีเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงชาวกรุงเทพ-นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.60 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การออกคำสั่งดังกล่าวมีผลต่อเอกราช อธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งน่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 52 ประกอบมาตรา 26 ทั้งนี้ 1 การก่อสร้างรถไฟฯ ดังกล่าวโดยให้การพัฒนาที่ดินด้านข้าง ๆ ละ150 เมตรตลอดเส้นทาง เป็นของชาวจีน เข้าข่ายทำให้ไทยสูญเสียอธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิ 2.คำสั่งคสช.ดังกล่าวยังได้ยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายปกติไม่น้อย 7 ฉบับในเรื่องเกี่ยวกับการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง ระเบียบว่าด้วยพัสดุ ทั้งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามรณรงค์เรื่องการสร้างความโปร่งใส แต่การยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเท่ากับไม่เคารพกลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุล
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า 3. คำสั่งดังกล่าวไม่สอดคล้องหลักการการใช้อำนาจตาม ม. 44 ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับ 2557 ที่กำหนดให้คสช.ใช้อำนาจออกคำสั่งเฉพาะกับเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงเท่านั้น แต่กรณีรถไฟความเร็วสูงเป็นเรื่องเศรษฐกิจ นอกจากนี้การออกคำสั่งยังไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 265 อีกด้วย 4.เรื่องดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายเป็นเรื่องการทำสนธิสัญญาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ที่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา การมาใช้อำนาจตามม. 44 ออกคำสั่งจึงน่าจะเป็นการกระทำที่ก้าวล่วง หาก สนช.ยกเว้นไม่ดำเนินการก็เท่ากับไม่รักชาติรักแผ่นดิน อย่างไรก็ตามหากผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบแล้วพบว่ากรณีการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศจีนก็ขอให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามมาตรา 221 ด้วย
“คิดว่า 4 ประเด็นน่าจะเพียงพอที่ผู้ตรวจฯ จะใช้อำนาจหน้าที่ยื่นเรื่องดังกล่าวพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง เพราะคำสั่งคสช. มีศักดิ์เทียบเท่ากับพระราชบัญญัติ เมื่อรัฐธรรมนูญปัจจุบันใช้บังคับ คสช.จะใช้อำนาจเหมือนปกติที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว รวมทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ก็ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งจะมาคิดกัน แต่มีการเจรจากันมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องออกคำสั่งเพื่อมาลดขั้นตอนวิธีการในการดำเนินการ หรือใช้อำนาจทุบโต๊ะซึ่งก็ไม่น่าจะเข้าหลักเกณฑ์ที่จะออกคำสั่งม. 44 ด้วย” นายศรีสุวรรณ และว่า หากรัฐบาลดึงดันจนไปถึงขั้นของการลงนามสัญญากับประเทศไทย ตนก็จะยื่นเรื่องดังกล่าวต่อป.ป.ช.และสตง. เพราะถือว่ามีอำนาจหน้าที่โดยตรง .-สำนักข่าวไทย