แจง 5 แนวทางดูแล “หยก” แนะเปิดใจยอมรับเด็กรุ่นใหม่

สธ. 21 มิ.ย. – “หมอยงยุทธ” แจงแนวทาง 5 ข้อ ดูแล “หยก” ย้ำให้เร่งหาผู้ปกครองที่แท้จริงมาดูแลพิทักษ์เด็กตามกฎหมาย ตามกระบวนการศาลเยาวชนฯ ระหว่างนี้ รร.ให้ “หยก” เข้าเรียนและเก็บคะแนนรายวิชา เพื่ออนาคตของเด็ก หากต้องไปศึกษาที่อื่น ติงพรรคการเมือง ควรหยุดยุ่งเรื่องของเด็กแบบรายบุคคล เพราะจะกลายเป็นทำให้เด็กเป็นเหยื่อทางการเมือง ควรมุ่งมองทั้งระบบ และศธ.ต้องเปิดใจกว้างยอมรับเด็กรุ่นใหม่ ไม่สามารถทำตามกฎโดยปราศจากข้อโต้แย้งอีกต่อไป


นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงแนวทางการดูแล “หยก” ว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม บานปลายและเริ่มมากขึ้น อีกทั้งสถานะภาพของ “หยก” ไม่ชัดเจนว่า เป็นนักเรียนหรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่า

  1. ควรให้สหวิชาชีพ ทั้ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้ามาดูแลเรื่องนี้และแก้ไข เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
  2. โรงเรียน ควรอนุญาตให้ได้เรียนและเก็บรายวิชาไปก่อน เพื่อประโยชน์ของเด็ก หากในอนาคตต้องไปหาที่เรียนอื่น เด็กจะไม่ได้เสียประโยชน์ หรือ โอกาสทางการศึกษา
  3. ควรเร่งหาผู้ปกครองที่เหมาะสมให้กับเด็ก โดยผู้ปกครองในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่กลุ่มคนปรารถนาดีกับเด็ก แต่ต้องมีศักยภาพในการเป็นผู้ปกครอง และดูแลเด็กไทยอย่างแท้จริง ในส่วนนี้ ควรปล่อยให้คนกลางอย่าง พม.เข้ามาไกล่เกลี่ย และร้องใช้อำนาจของกระบวนการศาลเยาวชนและครอบครัว มาพิจารณาหากผู้ปกครองที่เหมาะสม เพื่อดูแลพิทักษ์เด็ก
  4. สื่อมวลชนควรงดการเสนอข่าวเด็ก และถ่ายภาพ เพราะไม่ว่า เด็กจะมีพฤติกรรมอย่างไร ปีนรั้ว รร. หรือแสดงออกอย่างไร ในอนาคตสิ่งเหล่าจะยังปรากฏในโลกออนไลน์ แม้เขาเป็นผู้ใหญ่ และขอให้หยุดวิจารณ์สร้างความเกลียดชัดในตัวเอง ด้วยวาทะกรรมต่างๆ
  5. ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ควรใช้โอกาสนี้ทบทวนปรับปรุงรูปแบบการศึกษาในโรงเรียน โดยเข้าใจบริบทของเด็กรุ่นใหม่ ว่า ไม่สามารถทำตามกฎระเบียบโดยปราศจากการโต้เถียงหรือแย้ง ได้อีกต่อไป

นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเร่งทำ คือการหาตัวผู้ปกครองที่เหมาะสมกับเด็ก ตามกลไลทางกฎหมาย เพื่อคุ้มครองเด็ก ตามสิทธิเด็กที่พึงมี โดยไม่อาจปล่อยให้เด็กเป็นเหยื่อ ขณะเดียวกันเห็นว่าบรรดาพรรคการเมือง ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเด็ก และควรหยุดนำเด็กมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แบบรายบุคคล แต่ควรกลับไปคิดเชิงระบบของการแก้ไขปัญหาเด็ก ให้ทำอย่างไรเยาวชนจะเป็นพลเมืองที่ดีมีภูมิคุ้มกันทางสังคม ทั้งนี้จะเห็นว่า คำว่า ชุดนักเรียน หรือ การแต่งกาย ไม่ได้เป็นข้อจำกัดทางการศึกษาอยู่แล้ว บริบทของปัญหามีความหลากหลายไม่มีถูกผิด เช่น ในตามพื้นที่ห่างไกล ยากไร้ การใส่ชุดนักเรียน เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และในโรงเรียนที่ร่ำรวย และเด็กส่วนใหญ่มีเศษสถานะที่ดี การสวมชุดนักเรียน ช่วยให้เด็กอยู่ระเบียบ และลดความเหลื่อมล้ำในแต่ละครอบครัว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ