กรมทางหลวงชวนเอกชนลงทุนมอเตอร์เวย์เส้นทางนครปฐม-ชะอำ

รร.อนันตราสยาม  2 พ.ย. – นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market sounding) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 8 สายนครปฐม-ชะอำ พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็น จากภาครัฐ ภาคธุรกิจ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคาร กลุ่มนักลงทุน สมาคมการค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร่วมงาน


นายชาติชาย กล่าวว่า โครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย 8 มีความสำคัญที่จะกลายเป็นประตูสู่พื้นที่เศรษฐกิจของภาคใต้ ซึ่งการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ เงินลงทุน และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพของภาคเอกชน กระทรวงคมนาคมจึงมีนโยบายผลักดันให้โครงการนี้สามารถเริ่มกระบวนการหาเอกชนผู้ร่วมลงทุนภายในปี 2560 เพื่อให้ทันแผนที่จะเปิดให้บริการปี 2565 การสัมมนาวันนี้จะนำไปสู่ความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐและเอกชนในการนำพาประเทศไปสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ด้วยการยกระดับการคมนาคมขนส่งของประเทศให้เจริญก้าวหน้าด้วยโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างประเทศในอนาคต

สำหรับโครงการนี้คาดว่าจะเปิดให้ภาคเอกชนยื่นข้อเสนอประมูลในรูปแบบ PPP เป็นหนึ่งในเส้นทางตามแผนระยะเร่งด่วนที่มีความพร้อมในการดำเนินงานสูง ปัจจุบันดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดเสร็จทั้งหมดและรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว ขณะนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน  โครงการมีมูลค่าการก่อสร้างประมาณ 63,998 ล้าน แบ่งเป็น 2 ส่วนคือกรมทางหลวงจะเป็นผู้เวนคืนที่ดิน มูลค่ากว่า 9,488 ล้านบาท และให้เอกชนเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินทุน ก่อสร้างโยธาและงานระบบ ดำเนินงานและซ่อมบำรุงรักษาเส้นทาง รวมถึงการก่อสร้างและบริหารจัดการที่พักริมทางทั้งหมด มูลค่าประมาณ 54,510 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าเมื่อเปิดให้บริการปี  2565 จะมีปริมาณรถยนต์เฉลี่ยประมาณ 43,673 คัน และจะเพิ่มเป็น 122,108 คัน/วันในปี 2594 โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.5 ต่อปี


นายชาติชาย  กล่าวว่า  โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม – ชะอำ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 นครชัยศรี  –นราธิวาส (สุไหงโก-ลก) มีจุดเริ่มต้นเชื่อมกับโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่-กาญจนบุรี  อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผ่านไปยังจังหวัดราชบุรี  สมุทรสงคราม และสิ้นสุดอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ระยะทางรวมทั้งสิ้น 109 กิโลเมตร ออกแบบเป็นทางหลวงพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร มีการควบคุมทางเข้าออกอย่างสมบูรณ์และมีทางบริการในพื้นที่จำเป็น เพื่อลดผลกระทบของชุมชน มีด่านเก็บค่าผ่านทางด้วยระบบปิดทั้งหมด 9 ด่าน และมีการติดตั้งระบบชั่งน้ำหนักบริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง  ตลอดแนวเส้นทาง กำหนดให้มีที่พักริมทางทั้งหมด 5 แห่ง แบ่งเป็นศูนย์บริการทางหลวง  1 แห่ง สถานที่บริการทางหลวง 2 แห่ง และสถานที่พักริมทางหลวง  2 แห่ง

ทั้งนี้ เมื่อโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ เปิดให้บริการจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรบริเวณถนนเพชรเกษม ซึ่งปัจจุบันเป็นเส้นทางหลักสายเดียวที่เชื่อมการเดินทางสู่ภาคใต้ และยังมีส่วนช่วยเชื่อมโยงฐานการผลิตที่สำคัญทั้งภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศ ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านทั้งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์และมาเลเซีย เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจชาติให้ยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน

นายกฯ ขีดเส้น 30 วัน ออกมาตรการคุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ

นายกฯ สั่ง พาณิชย์-ดิจิทัลฯ เข้ม 3 มาตรการ คุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศให้มีคุณภาพ ขีดเส้นให้เสร็จภายใน 30 วัน

“มาริษ” ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ร่อนหนังสือ​ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4 เจ็บ 1 ให้ยุติส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมยับยั้งชั่งใจ ป้องกันความขัดแย้งขยายตัว ขอคนไทยชะลอการเดินทางไปอิสราเอล-ตะวันออกกลาง