กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.-“เชาว์” ติง “นิวัติไชย” ทำศาลฯ เสื่อมเสีย หลังอ้างไม่มีเอกสารคำสั่งให้ “พิธา” เป็นผู้จัดการมรดก ทำคนไม่เชื่อมั่นระบบจัดเก็บข้อมูลของศาล
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง เตือน นิวัติไชย ให้ข้อมูลกระทบศาล ปม พิธา เป็นผู้จัดการมรดก มีเนื้อหาระบุว่า กรณีนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีปมหุ้นของของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ว่า “จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( สส. ) ปี 2562
นายเชาว์ กล่าวว่า กรณีการ “ถือหุ้นสื่อไอทีวี” นายพิธาแนบเอกสารคำสั่งศาล ว่า เป็นผู้จัดการมรดกมาด้วย ซึ่งเป็นเอกสารราวปี 2550 ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารกับทางศาล อย่างไรก็ตามทางศาลตอบมาว่าไม่ได้เก็บเอาไว้แล้ว” แนวทางคือต้องพยายามหาเอกสารตัวนี้มาเพื่อยืนยัน ว่าเป็นเอกสารที่ศาลรับรองถูกต้องใช่หรือไม่ เอกสารที่ผู้ยื่นมาทุกอย่างป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบซ้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายเชาว์ ระบุว่า ส่วนเหตุที่ตรวจสอบล่าช้า เพราะจะต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ส่งสำเนาตอบกลับมาว่าจริง และเมื่อศาลระบุว่าแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก กรณีไม่ได้เก็บต้นเรื่องเอาไว้ คู่ฉบับก็ไม่มีแล้ว ก็ต้องให้นายพิธา แนบเอกสารเพิ่มเติมเข้ามา” และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(วันที่ 15 มิ.ย 66)นายนิวัติไชยได้ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ในรายการสนามข่าวเจ็ดสี ตอกย้ำเกี่ยวกับคำสั่งศาลแต่งตั้งนายพิธาเป็นผู้จัดการมรดกว่า ศาลบอกว่าหาไม่เจอแล้ว
“ได้ยินได้ฟังคำสัมภาษณ์ของนายนิวัติไชย แล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะ ที่นายวิวัฒน์ชัยอ้างว่า ได้สอบถามไปที่ศาลแล้วศาลบอกว่าเรื่องเกิดมานานแล้ว ไม่ได้เก็บเอกสารไว้หาไม่เจอแล้ว อาจทำให้สังคม ตั้งคำถามไปที่ศาลในเชิงไม่น่าเชื่อถือเพราะไม่มีระบบการจัดเก็บเอกสารสำคัญเช่นคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลไว้เป็นหลักฐานให้ตรวจสอบย้อนหลัง หรือคนบางกลุ่มอาจจะคิดเลยไปว่าที่ศาลตอบว่าอย่างนั้นต้องการกลั่นแกล้งนายพิธาหรือไม่” นายเชาว์ ระบุ
นายชาว์ ระบุว่า ไม่เข้าใจว่าก่อนที่นายนิวัติไชยจะให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว นายนิวัติไชยได้ไปขอเอกสารหลักฐาน จากคำสั่งแต่งตั้งมรดกผู้จัดการมรดกจากศาลจริงหรือไม่ เพราะในทางปฏิบัติคำพิพากษาหรือคำสั่งใดที่เป็นเอกสารสำคัญในสำนวนศาลจะมีระบบจัดเก็บต้นฉบับไว้ในที่ปลอดภัย จะไม่ปลดทำลาย ไปพร้อมเอกสารประกอบสำนวนหากเกิน 10 ปี และนอกจากเก็บต้นฉบับไว้แล้ว ยังมีการบันทึกเอกสารเหล่านั้นไว้ในแผ่นไมโครฟิล์มเก็บไว้เป็นหลักฐานอีกชั้นหนึ่งซึ่งต่อมาเมื่อมีระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน ก็จะมีการสแกนเอกสารสำคัญเแนบไฟล์คอมพิวเตอร์เก็บไว้อีกชั้นหนึ่ง เพราะฉะนั้นเอกสารหลักฐานสำคัญไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลคู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสียสามารถคัดถ่ายและตรวจสอบจากศาลได้ทุกเวลา ไม่ได้สูญหาย หรือค้นไม่เจอแล้วตามที่นายนิวัติไชยให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน
“ผมจึงขอตำหนินายนิวัติไชย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเลขาธิการปปช. ว่าการให้ข้อมูลต่อสาธารณชนที่ไม่ตรงกับความจริง โดยเฉพาะหน่วยงานศาลซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการอำนวยความความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะมิฉะนั้น อาจสร้างความเสียหายศาลและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบศาลยุติธรรมได้” นายเชาว์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย