จับแก๊งจีนแฮกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มตามตู้แหล่งช้อปปิ้ง

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.- ตำรวจรวบแก๊งชาวจีนแฮกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มที่ติดตั้งตามศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้งทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ตระเวนได้วันละกว่า 200 ใบ


นายจง ฟู่ หัว (Mr.Zhong Fuhua) นายหลิว หลี่ หมิง (Mr.Lui Liming) และนายจู ว่าน หลง (Mr.Zhu Wanrong) สัญชาติจีน ถูกตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง จับกุมได้พร้อมเครื่องคัดลอกข้อมูลจากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ 3 ชิ้น กล้องวิดีโอบันทึกภาพขนาดเล็ก 5 ชิ้น บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 10 ใบ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง สายเชื่อมต่อข้อมูลสกิมเมอร์ 7 สาย และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการกระทำความผิด

โดยเจ้าหน้าที่จับกุมนายจง ฟู่ หัว ได้ที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ทางเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีห้างเซ็นทรัล พระราม 9 ขณะกำลังเก็บอุปกรณ์เครื่องคัดลอกข้อมูล และกล้องวิดีโอขนาดเล็กที่ดัดแปลงไว้สำหรับติดกับตู้เอทีเอ็ม จากนั้นขยายผลจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือได้อีก 2 คน ขณะกำลังหลบหนีขึ้นรถแท็กซี่ บริเวณหน้าอาคารไนซ์ แมนชั่น ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 โดยนายจง ฟู่ หัว ให้การรับสารภาพว่า เดินทางเข้าประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเข้ามาพักอาศัยกับนายจู ว่าน หลง ที่ไนซ์ แมนชั่น โดยมีหน้าที่เดินเก็บเครื่องคัดลอกบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และกล้องวิดีโอขนาดเล็กที่ติดตั้งไว้บริเวณตู้เอทีเอ็มกลับห้องพัก โดยมีนายซ่ง เลี่ยง หมิง (Mr.Zhong Lang Ming) สัญชาติจีน หัวหน้าขบวนการ ซึ่งหลบหนีไปแล้วเป็นคนชักชวน ส่วนนายหลิว หลี่ หมิว มีหน้าที่นำอุปกรณ์ไปติดที่ตู้เอทีเอ็ม ขณะที่นายจู ว่าน หลงยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยเท่านั้น 


จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่าคนร้ายชาวจีนกลุ่มนี้จะใช้อุปกรณ์และมีแผนประทุษกรรมในลักษณะเดียวกันทั้งหมดในการก่อเหตุ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าคนร้ายกลุ่มนี้ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น ห้างเทอมินอล 21 และในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งจับกุมมาดำเนินคดี โดยประเทศไทยเป็นอันดับที่ 6 ของโลกที่ถูกก่อเหตุในลักษณะนี้ และคนร้ายจะก่อเหตุวันละประมาณ 200 ใบ 

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลง หรือมีเครื่องมือหรือวัตถุเช่นว่านั้น เพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก