สำนักงานสลากฯ 2 พ.ย. – สำนักงานสลากฯ ปรับวันรับสลากล่วงหน้าช้าไป 5 วัน ทำให้มีเวลาขายน้อยรวมชุดยากขึ้น คาดมีผู้ทิ้งสลาก 10,000 ราย พร้อมปรับเงื่อนไขห้ามนำสลากไปรวมชุดกับผู้อื่น หากพบยกเลิกสัญญาทันที
นายธนวรรธน์ พลวิชัย คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า หลังจากประชาชนร้องเรียนปัญหาสลากเกินราคาจำหน่ายในหลายพื้นที่ 100-120 บาท เนื่องจากรายย่อยจองผ่านธนาคารกรุงไทยและได้รับโควตานำไปขายต่อให้กับนายทุน จากนั้นไปซื้อสลากตามตลาดขายส่งเพื่อขายเกินราคา โดยมีนายทุนกลุ่มใหม่เกิดขึ้นมาแข่งกับกลุ่มเดิม จึงไม่ใช่ผู้ค้าตัวจริงในตลาดและส่วนใหญ่เป็นเหตุจากรายย่อยนำไปขายต่อเพราะปัจจุบันสลาก 60 ล้านฉบับ อยู่ในมือรายย่อยร้อยละ 85 ส่วนอีกร้อยละ 15 อยู่ในมือของมูลนิธิ องค์กร สมาคม ดังนั้น จากนี้ไปสำนักงานสลากฯ จะดำเนินการจับปรับอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อหาผู้ค้าสลากตัวจริงให้ได้มากที่สุด เพราะขณะนี้สลากในแผงจะมีการรวมชุด 3, 5, 10, 15 ชุด ขณะที่สลากใบขายน้อยมาก จึงต้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีประชาชนร้องเรียนผ่านคอลเซ็นเตอร์กว่า 1,295 รายการ โดยเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นมากที่สุด ซึ่งสามารถจับกุมได้ 487 ราย โดยผู้ที่ถูกจับกุมถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนด คือ ปรับรายละไม่เกิน 10,000 บาท และหากเป็นตัวแทนจำหน่ายจะถูกยกเลิกทันที และยกเลิกสัญญา 153 ราย และถูกตัดสิทธิ์การลงทะเบียนในโครงการซื้อและจองล่วงหน้า 57 ราย พร้อมทั้งขึ้นบัญชีรายชื่อ (Black list) ไม่ทำสัญญาครั้งต่อไป สำหรับผู้ที่ซื้อ-จองล่วงหน้าจะถูกตัดสิทธิ์การลงทะเบียนทันที
พันโทหนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ ได้ออกมาตรการเพิ่มในการเซ็นสัญญารอบใหม่วันที่ 19-25 พฤศจิกายนนี้ (อายุสัญญา 16 ธันวาคม 2559 – 1 มิถุนายน 2560) โดยปรับเงื่อนไขว่าผู้ขายต้องไม่นำสลากของตนไปรวมชุดกับผู้อื่น หากตรวจพบว่าสลากของตนไปวางเพื่อเตรียมจำหน่ายที่จุดจำหน่ายของผู้อื่นให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นไม่ได้ขายสลากด้วยตนเองและถือว่าผิดสัญญา หากไม่ให้ความร่วมมือหรือพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไข สำนักงานสลากฯ จะยกเลิกสัญญาทันที ขณะที่มูลนิธิ องค์กร และสมาคม เตือนก่อน 2 ครั้งหากกระทำผิด และหากยังพบว่านำสลากไปขายช่วงต่อ หรือขายสลากรวมชุดอีก ทำให้สลากเกินราคาจะยกเลิกโควตาสมาชิกในองค์กรนั้นทันที
พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ จะปรับวันรับสลากล่วงหน้าให้ช้าไปอีก 5 วัน จากเดิมวันที่ 2 กับ 17 ของทุกเดือน เป็น 7 และ 22 ของเดือน ทำให้มีเวลาจำหน่ายเพียงแค่ 9 วัน จากเดิม 15 วัน ทำให้การรวมสลากชุดทำได้ยากขึ้น เนื่องจากการขายสลากเกินราคาส่วนใหญ่มาจากผู้ค้าสลากรายย่อยในระบบการซื้อจองสลาก คาดว่าจะทำให้ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ค้าสลากตัวจริงทิ้งสลากประมาณ 10,000 ราย และนำสลากจำนวนนี้มาเพิ่มในสัดส่วนระบบซื้อของธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ผู้จำหน่ายจริงได้มีโอกาสเข้าถึงสลากได้มากขึ้น
สำหรับปัญหาของสมาคมคนตาบอดได้แจ้งสมาคมฯ ไปแล้ว เพื่อแก้ปัญหาภายในองค์กรให้เสร็จ ด้วยการควบคุมดูแลสมาชิกให้ขายสลาก 80 บาทตามที่กำหนด และการจัดสรรโควตาสลากอย่างเป็นธรรม หากทำผิดเงื่อนไข สำนักงานสลากฯ อาจต้องตัดสิทธิ์การต่อสัญญารอบต่อไป. – สำนักข่าวไทย