นนทบุรี 12 พ.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ทั่วประเทศช่วง 4 เดือนแรกปี 66 เติบโตต่อเนื่องแถมสูงสุดในรอบ 10 ปี มียอดทะลุ 32,223 รายจากแรงส่งด้านท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ ที่มีสัญญาณเศรษฐกิจช่วงขาขึ้น มั่นใจยอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 75,000 – 78,000 ราย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์การจดทะเบียนธรุกิจประจําเดือนเมษายน 2566 โดยมียอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จํานวน 6,041 ราย เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 12.37% (เมษายน 2565) โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 434 ราย คิดเป็น 7.19% รองลงมา คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 405 ราย คิดเป็น 6.70% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 262 ราย คิดเป็น 4.34% ตามลำดับ ทำให้ภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 มีจํานวนการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยจากสถิติ ตั้งแต่ปี2557–2566 นั้น เดือนเมษายน2566มียอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ 10 ปีรวมถึงเดือน มกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคมของปี 2566 มีการจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ 10 ปี เช่นกัน ส่งผลให้สถิติการจัดตั้ง ธุรกิจใหม่ 4 เดือนแรก เพิ่มขึ้นถึง 16.23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. – เม.ย. 65)
ทั้งนี้ การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนเมษายน 2566 แม้ว่าชะลอตัวลงไปบ้าง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจาก จํานวนวันทําการราชการที่น้อยกว่าเดือนก่อน และเป็นไปตามแนวโน้มปกติของการจดทะเบียนที่จะมีจํานวนจัดตั้ง ลดลงในเดือนเมษายน
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจหนึ่งที่ส่งผลต่อการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 คือ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยมีสัดส่วนการจัดตั้งใหม่คิดเป็น 8% ของธุรกิจที่จัดตั้งใหม่ทั้งหมด และมีอัตราการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. – เม.ย. 65) โดยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กับการท่องเที่ยวและมีการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 5.6 เท่า ธุรกิจ ตัวแทนการเดินทาง เพิ่มขึ้น 3.7 เท่า ธุรกิจจัดนําเที่ยว เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 68% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด เพิ่มขึ้น 41% ซึ่งการเติบโตดังกล่าว คาดว่าเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในประเทศ และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่น ทางธุรกิจ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขณะที่การจดทะเบียนเลิกธุรกิจในเดือนเมษายน 2566 มีจํานวน 936 ราย ลดลง จากเดือนที่ผ่านมา (มีนาคม 2566) คิดเป็น 15.06% โดยธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 115 ราย คิดเป็น 12.29% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 53 ราย คิดเป็น 5.66% และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 23 ราย คิดเป็น 2.46% ตามลำดับ ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ 30 เมษายน 2566 จำนวน 871,041 ราย มูลค่าทุน 21.23 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นบริษัทจำกัด จำนวน 667,100 ราย คิดเป็น 76.59% ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,544 ราย คิดเป็น 23.25% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,397 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดตั้งธุรกิจใหม่ 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย) เพิ่มขึ้นถึง 16.23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. – เม.ย.65) แม้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนเมษายน 2566 มีการชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ด้วยหลายปัจจัยด้านต่างๆขณะนี้มีแนวโน้นดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่มีการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นแถมยังทำให้ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง ธุรกิจจัดนำเที่ยว ธุรกิจภัตตาคารร้านอาหาร และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และห้องชุด เติบโตเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น สะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 42,000 – 45,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 75,000 – 78,000 รายเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย