กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – ศาลแพ่งสั่งยกคำร้อง กรณีพรรคภูมิใจไทยขอศาลสั่งคุ้มครอง ห้าม “ชูวิทย์” เข้าใกล้เวทีปราศรัยใหญ่ ชี้เป็นการจำกัดสิทธิเกินควร
ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก สั่งยกคำร้องกรณีพรรคภูมิใจไทยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลย เรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย โดยกล่าวหาว่าจำเลยทำให้โจทก์เสียหายแก่เสรีภาพ ทรัพย์สิน และเสียชื่อเสียง เป็นการตัดทอนคะแนนนิยมในการหาเสียง พร้อมยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้จําเลยเข้าใกล้บริเวณสถานที่หาเสียงปราศรัยของโจทก์ และห้ามแถลงข่าว แสดงความคิดเห็นถึงโจทก์และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของโจทก์ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ จนกว่าจะพ้นวันเลือกตั้งนั้น
ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้ว เห็นว่าจำเลยมีสิทธิตามเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่จะแสดงความคิดเห็นและเข้าฟังการปราศรัยที่จัดขึ้นเป็นสาธารณะได้ การห้ามมิให้จำเลยเข้าใกล้บริเวณที่หาเสียงปราศรัยของโจทก์เป็นการจำกัดเสรีภาพของจำเลยเกินสมควร นอกจากนี้ ยังไม่แน่ว่าจำเลยจะเข้าไปก่อความวุ่นวายในพื้นที่ปราศรัยของโจทก์ในวันที่ 12 พฤษภาคม หากจำเลยก่อความวุ่นวายจริง ย่อมมีความผิดทางอาญา โจทก์สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ จึงยังไม่สมควรที่จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
ส่วนคำขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกล่าว แถลงข่าวหรือพูดแสดงความคิดเห็นถึงโจทก์ และผู้สมัคร ส.ส.ในพรรคของโจทก์นั้น ยังไม่แน่นอนว่าจำเลยจะได้กล่าวอ้างหรือพูดแสดงข้อความอันเป็นเท็จเพื่อใส่ความโจทก์หรือไม่ หากกระทำเช่นนั้นจริงจำเลยต้องชดใช้ค่าสินใหม่ต่อโจทก์ตามฟ้องอยู่แล้ว ขณะเดียวกันประชาชนย่อมมีวิจารณญาณในการเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมือง การจะสั่งห้ามจําเลยมิให้กระทำการใดในอนาคตที่ยังไม่แน่นอนว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ย่อมเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของจำเลยเกินสมควร กรณียังไม่สมควรที่จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ยกคำร้อง.-สำนักข่าวไทย