แยกพาณิชการ 9 พ.ค. – “ชาวหมูทั่วประเทศ” ร้องนายกฯ ปราบปรามขบวนการทุจริตลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน แก้โครงสร้างต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงเกินจริง ชี้ทำลายอุตสาหกรรมสุกรไทย
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พร้อมตัวแทนชาวหมูจากทั่วประเทศ เดินทางมาปักหลักบริเวณแยกพาณิชการ เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีนายฉลองกรุง ภคกุล ผอ.ฝ่ายองค์กรประชาชน สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนในการเจรจาและรับหนังสือ
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามขบวนการทุจริตลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน นำผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างเร่งด่วน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาสงสัยว่ามีการนำเข้าสินค้าสุกรโดยการสำแดงเท็จ จึงขอให้กรมปศุสัตว์ทบทวนชะลอการนำเข้าเครื่องสุกรจากต่างประเทศเพื่อป้องกันการสวมพิกัดศุลกากร รวมถึงขอให้เร่งแก้ไขปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงเกินจริง ทั้งราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หน้าโรงงานอาหารสัตว์ และราคากากถั่วเหลืองเม็ดนำเข้าที่มีราคาสูงเกินจริง พร้อมขอให้ยกเลิกอากรขาเข้ากากถั่วเหลืองจาก 2% เป็น 0% เพื่อความเสมอภาค และยกเลิกระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้าข้าวสาลีเข้ามาในราชอาณาจักร ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2565
นายสุรชัย กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นนายกสมาคมหมูมา มีครั้งนี้ที่ชาวหมูสาหัสมาก หลังมีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ทำให้ปริมาณผลผลิตสุกรของประเทศลดลง ในขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงสุกรของไทยถือว่าสูงที่สุดในโลก จึงเกิดขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนที่มีราคาเนื้อสุกรที่ชำแหละแล้วเพียงกิโลกรัมละ 50 บาท มาจำหน่าย ซึ่งที่ผ่านมาทั้งปี 2565 สมาคมมีการเรียกร้องหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากกรมปศุสัตว์ จึงต้องรวมตัวกันมาเรียกร้องในวันนี้
ด้านนายสัตวแพทย์วรวุฒิ ศิริปุณย์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ผู้เลี้ยงสุกรได้จับตาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เห็นความผิดปกติส่วนต่างราคาพืชอาหารสัตว์ทั้งกลุ่มพลังงาน ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกลุ่มโปรตีนอย่าง ถั่วเหลือง ที่ราคาในประเทศขยับสูงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาตลาดโลกยอดตัวลงมานานแล้ว ถ้ายังไม่แก้ไขปัญหาต้นทุนทางปศุสัตว์ ความยั่งยืนของปศุสัตว์ไทยจะไม่เกิดขึ้น อีกทั้งฟาร์มขนาดใหญ่เข้าสู่มาตรฐานความภาคบังคับไปแล้ว ฟาร์มขนาดกลางจะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ดังนั้น ปัญหาทั้ง 2 เรื่อง ถือว่าต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (9 พ.ค.) กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลกากร เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้นำเข้าที่เป็นเจ้าของสินค้าสุกรลักลอบ ที่มีตู้เย็นคอนเทนเนอร์ตกค้างถึง 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง และให้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับท่าเรืออื่นๆ พร้อมทั้งสืบค้นข้อมูลย้อนหลังของผู้นำเข้าที่มีประวัติการกระทำความผิด.-สำนักข่าวไทย